COLUMNISTS

นิสสันเร่งพัฒนารถไฟฟ้าผ่านสังเวียน Formula E (Formula 1 เวอร์ชั่นไฟฟ้า)

Avatar photo
แอดมินเพจ Tesla News Thailand นำเสนอเรื่องราวบริษัทเทสล่า และความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ยุคใหม่ และพลังงานไฟฟ้ายั่งยืน [email protected]
129

อย่างที่ทางนิสสันได้ประกาศไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่า จะเป็นผู้ผลิตรถญี่ปุ่นรายแรกที่จะลงสู่สนามการแข่งขัน Fomula E ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่าการแข่ง Formula 1 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะสุดยอดการแข่งขันทางเรียบ ที่อีกด้านหนึ่งก็เป็นเสมือนห้องทดลองเคลื่อนที่เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

2018 4 20 gallery2

ขณะนี้ ตัวรถแข่งซึ่งมีหน้าตาสวยงามดุดันได้รับการตระเวนโชว์จนมาถึงที่ Los Angeles ในสหรัฐแล้ว

แหล่งข่าวอย่าง Electrek ได้รายงานการแถลงข่าวจากทีมงานที่อยู่เบื้องหลังงานนี้ว่า การแข่งขัน Formula E นั้นเปิดโอกาสให้นิสสันได้พัฒนารากฐานเทคโนโลยีรถไฟฟ้า โดยการใช้ถนนแบบเดียวกับที่ผู้ใช้รถนิสสัน Leaf ใช้กันซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะบริษัทจะได้เรียนรู้และพัฒนาเทคโนโลยีจากสภาพถนนจริงด้วยรถแข่งของบริษัท และนำความรู้ที่ได้ไปใช้กับรถไฟฟ้าเพื่อการจำหน่ายทั่วไป

กฎเกณฑ์ของการแช่ง Formula E ที่เพิ่งมีการจัดแข่งได้เพียง 5 ปีเท่านั้น ได้มีการปรับเปลี่ยนเรื่องหลักๆ ที่ทำให้มีผู้ผลิตรถยนต์ตบเท้าเข้าร่วมกันมากมาย ก็คือเรื่องการอนุญาตให้ผู้ผลิตรถเจ้าของทีมสามารถใช้ระบบขับเคลื่อนของตนเองได้ รวมทั้ง การได้ชุดแบตเตอรี่ใหม่ที่จะทำให้รถแข่งสามารถวิ่งได้จนจบรายการ

การแข่งขันสนามต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้ ที่เมือง Paris ประเทศฝรั่งเศส

2018 4 20 gallery5

ความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างหนึ่งของสังเวียนแข่งรถไฟฟ้าอย่าง Formula E ซึ่งไม่เหมือนกับการแข่ง Formula 1 เลยก็คือ การใช้ถนนทั่วไปเป็นสนามแข่งรถแทน อาศัยประโยชน์จากเสียงของรถที่เงียบมากๆ เมื่อเทียบกับรถแข่งทั่วไป ทำให้สามารถทำการจัดแข่งในเมือง โดยเลือกถนนที่มีความกว้างพอสำหรับการแข่ง ซึ่งจะแคบกว่าแทร็คในสนามแข่งปรกติ

แต่ก็อาจจะเห็นการแข่ง Formula 1 บางสนามที่จัดแข่งในเมืองอย่างที่โมนาโค  ประเทศเล็กๆ ในยุโรป ที่มีทิวทัศน์สวยงาม หรือ สิงคโปร์ที่เพิ่มเริ่มมีการจัดการแข่งขันเฉพาะในเวลากลางคืน และแม้แต่ในบ้านเราก็มีจัดที่บางแสน แต่เป็นการแข่งในประเทศเท่านั้น

สิ่งนี้ทำให้มีผลกับการออกแบบตัวรถ ขนาดของรถ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่การแข่งจะดูไม่น่าสนใจเลย ถ้าไม่มีผู้เล่นรายใหญ่อย่างผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไป ซึ่งปกติจะทุ่มงบประมาณมหาศาลในการพัฒนาทั้งตัวรถแข่ง ทีมแข่ง รวมทั้งเทคโนโลยี ที่ประเคนใส่เข้ามาเท่าที่กติกาจะเปิดช่องให้ใช้ได้ ทั้งหมดก็จะออกดอกออกผลไปสู่การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ความเหนือขั้นของเทคโนโลยี ที่แต่ละค่ายมีอันจะเกี่ยวเนื่องไปกับผลแพ้ชนะภายใต้กติกาการแข่งขัน

จริงๆ ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายๆ เช่น ฝีมือของนักขับและ tactic ที่ใช้ของทีมในระหว่างแข่งขันด้วย

เราอาจจะได้เห็นการแข่ง Formula E เติบโตไว และได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการแข่งขันแบบดั้งเดิม ที่ต้องใช้สนามที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ  ซึ่งต้องลงทุนมหาศาล

2018 4 20 gallery4

เมื่อเทียบกับการแข่ง Formula E แล้ว ต้นทุนน่าจะห่างกันอย่างลิบลับ ที่สำคัญเนื่องจากกติกามีการผูกไว้กับความนิยมของสื่อสมัยใหม่ อย่างโซเชียลมีเดีย ที่ความนิยมของทีมจะสามารถนำมาใช้ในการอัพพลังให้กับรถแข่งในช่วงสั้นๆ ได้ เหมือนกำลังอยู่ในเกมคอมพิวเตอร์ อันเป็นกติกาที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการมอเตอร์สปอร์ต แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นการกระตุ้นให้แต่ละทีมช่วยประชาสัมพันธ์การแข่งเพื่อให้สังเวียนนี้เติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นจากสื่อโซเชียลนั่นเอง

ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าเกมการแข่งขันจะดูสนุกและมันขนาดไหนในความไร้เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มแบบที่คุ้นเคยกันของทุกสนามแข่งของ Formula 1 แต่หากมองตามเทรนด์แล้วยังไงเสีย การแข่ง Formula E หรือการแข่งรถพลังงานไฟฟ้าก็จะเข้ามาแทนทีการแข่งรถแบบเดิมอย่างแน่นอน ติดตามชมกันต่อไป

ที่มา : https://goo.gl/BR52Ef

Nikola Motor เดินเกมการตลาดแบบแปลกๆ คืนเงินมัดจำแย่งลูกค้าเทสล่า

BMW อาจยุติการผลิต i3 และ i8 ก่อนก้าวเข้าสู่ยุคถัดไป

Benz จัดหนักรถไฟฟ้ารุ่นใหญ่ชั้น S Class ทวงบังลังค์คืนจากเทสล่า Model S