“กินทุเรียน ไม่ยั้ง 4-5 เม็ด ทำร่างกายรับพลังงานสูงเทียบกินอาหาร 2 มื้อ”
ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ที่ใครหลายคนชื่นชอบ และเมื่อพูดถึงพันธ์ทุเรียนไทย ผู้อ่านจะมีคุ้นหูอยู่ไม่กี่พันธ์ เช่น ทุเรียนหมอนทอง ทุเรียนชะนี ทุเรียนป่าละอู แต่ทราบหรือไม่ว่ามีทุเรียนไทยกว่า 600 สายพันธ์บนโลกใบนี้ และสายพันธ์ทุเรียนไทย เป็นที่นิยมมากทั้งกับชาวไทย และชาวต่างชาติ เป็นผลไม้ที่สร้างชื่อให้กับประเทศไทยเลยทีเดียว
ผู้อ่านหลายท่านโปรดปรานกลิ่นรัญจวนของทุเรียน รสชาติ หวาน มันของเนื้อทุเรียน แต่เมื่อรับประทานมาก ๆ ก็ต้องรู้สึกผิดและตะขิดตะขวงใจ เพราะมีน้ำตาลและแคลอรี่สูง ทำให้เกิดคำถามในใจว่า ควรรับประทานอย่างไร จึงจะพอดี ไม่อ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีเป็นโรคเบาหวาน และความดันสูง ยังสามารถทานทุเรียนปริมาณเยอะ ๆ เหมือนคนปกติได้หรือไม่ น่าจะเป็นคำถามคาใจผู้อ่านไม่มาก็น้อย
องค์ประกอบหลักของทุเรียน คือ “น้ำตาล”
เมื่อเราทานทุเรียนไป 100 กรัม จะให้พลังงานมากถึง 100-120 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเปลี่ยนเป็นพลังงานสูงมาก นอกจากนี้ ยังมีไขมันสูงด้วยเช่นกัน ซึ่งเปรียบเทียบกับผลไม้ทั่วไป จะให้พลังงานเพียง 60-70 กิโลแคลอรี่ในปริมาณที่เท่ากัน เราจะเห็นว่า ทุเรียน ให้แคลอรี่มากกว่าถึง 2 เท่าเลยทีเดียว และถ้าเทียบกับข้าว ก็ประมาณ 1.5 ทัพพี (บอกแบบนี้ ผู้อ่านบางท่าน อาจงดข้าว ทานทุเรียนแทน) เมื่อเราทานทุเรียนในปริมาณที่มาก ก็ย่อมส่งผลต่อสุขภาพร่างกายได้ เช่น อ้วน เบาหวานขึ้น น้ำตาลขึ้น และไขมันในเลือดสูงขึ้น
“ทุเรียน” มีไฟเบอร์สูง
แน่นอน ผลไม้ทุกชนิด มีส่วนประกอบธรรมชาติที่สำคัญคือ “ไฟเบอร์” โดยเฉพาะ ทุเรียน มีไฟเบอร์ หรือกากใยค่อนข้างสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น หลายคนจึงนำมาใช้ในเรื่องการระบาย การขับถ่าย ใน ทุเรียน มีสารแอนติออกซิแดนท์ (Antioxidan) สูง โดยเฉพาะในกลุ่ม แครีนอยด์ และ โพลิฟีนอล ช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มีซัลเฟอร์สูง ช่วยในการกระตุ้นการเผาผลาญ
ทานทุเรียน ทั้งลูกคนเดียว จะอ้วนมั๊ย?
ถือเป็นคำถามจากเพื่อนรุ่นน้อง ที่ชื่นชอบการทานทุเรียน เป็นชีวิตจิตใจ ตั้งประเด็นคำถามไว้น่าสนใจ และน่าจะโดนใจผู้ผ่านหลายท่าน (ที่อาจทานคนเดียว ทั้งลูกเหมือนกัน) แม้ว่า “ทุเรียน” จะเป็นแหล่งคุณค่าทางสารอาหารที่ดี แต่แคลอรี่ และคาร์โบไฮเดรต ที่มีปริมาณที่สูงนั้น ย่อมส่งผลให้น้ำหนักและรอบเอว เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยถ้าเทียบกับ ทุเรียนลูกใหญ่ ที่มีเนื้อทุเรียนประมาณ 1 กิโลกรัม อาจส่งให้พลังงานมากถึง 1,350 กิโลแคลอรี่ หากรับประทานทั้งหมด (คนเดียว) จะคิดเป็นพลังงาน 68% (ซึ่งผู้ใหญ่ทั่วไปควรได้รับพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน) ซึ่งถือว่า สูงมากนะคะ ทางที่ดี แนะนำควรทานประมาณ 2-3 เม็ดต่อครั้งก็พอแล้วนะคะ
เบาหวาน กับ ทุเรียน
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน หรือ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ควรระมัดระวัง หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน โอกาสเสี่ยงที่จะมีค่าน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแน่นอน และสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้รักษาระดับน้ำตาลให้ได้ตามเป้าหมายก่อน ก็จะสามารถรับประทานได้ (แต่อย่าเยอะนะคะ) อาจหันไปลดปริมาณอาหารอย่างอื่นแทน ซึ่งผู้เขียน ขอแนะนำว่า ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวด้วยดีกว่า ด้วยเพราะผู้ป่วยเบาหวาน มานาน 5-10 ปี จะมีความเสื่อมของไต เกิดขึ้นตามมาด้วย ยิ่งหากรับประทานทุเรียนมากเกินไป จะส่งผลไปถึงค่าไต ด้วย
ความดัน กับ ทุเรียน
สำหรับผู้ป่วยความดันเลือดสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ หากทานทุเรียนในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้อาการเสี่ยงทรุดได้ เพราะในทุเรียน มีแป้ง และน้ำตาลสูง ผู้ป่วยความดันเลือดสูง ต้องควบคุมน้ำตาล และไขมันในเลือด ควรทานทุเรียนพอหายอยากก็พอ ไม่ทานปริมาณมากเกินไป หากเป็นไปได้ แนะนำทานทุเรียนเพียง 1 เม็ดเล็ก ๆ ต่อวันก็พอ และเนื่องจากทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไต ไม่สามารถขับโปแตสเซียมส่วนเกินได้เท่ากับคนปกติ ผู้ป่วยโรคไต ควรเลี่ยงทานทุเรียน จะปลอดภัยต่อร่างกาย
กินทุเรียน ทำให้ไขมันในเลือดสูงมั๊ย?
หยิบมาเป็นอีกหนึ่งหัวข้อเลยหล่ะกัน ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และน้ำตาลสูง อย่างที่กล่าวไว้ด้านบนว่า “น้ำตาล” เป็นองค์ประกอบหลักของทุเรียน การที่เราจะมีไขมันในเลือดสูง (คอเลสเตอรอลสูง) นั้น ขึ้นอยู่กับพลังงานในอาหาร / ผลไม้ ที่เรากินเข้าไปในร่างกาย เพราะทุเรียน 100 กรัม ให้พลังงานถึง 100-120 กิโลแคลอรี่ ซึ่งโดยปกติผลไม้ทั่วไปจะอยู่ที่ 60-70 กิโลแคลอรี่ในปริมาณที่เท่ากัน ดังนั้น การกินทุเรียนมากเกินไป อาจเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย จึงมีผลทำให้ไขมันในเลือดสูง หรือ คอเลสเตอรอลสูง นั่นเอง
ดื่มเบียร์ไปด้วย กินทุเรียนไปด้วย อันตรายมั๊ย?
ผู้อ่านหลายท่านเป็นนักดื่มเช่นกัน เมื่อเรากินทุเรียนเข้าไป “ทุเรียน” จะส่งผลให้เอนไซม์ Aldehyde Dehydrogenase ลดลง ด้วยเพราะเอมไซม์ตัวนี้ มีหน้าที่เปลี่ยนสารแอลดีไฮด์ (Aldehyde) สารพิษที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญแอลกอฮอล์ไปเป็นพลังงานให้กลายเป็นสารอื่น แล้วกำจัดออกจากร่างกายไป เมื่อกำจัดได้น้อยลง จึงทำให้สารแอลดีไฮด์ไปสะสมในร่างกาย เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียน และอาเจียน นอกจากนี้ อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่า การรับประทานทุเรียนในปริมาณที่ไม่มาก จะให้ประโยชน์มากกว่าที่จะให้โทษแก่ร่างกาย เพราะมีสารอาหารที่มีคุณค่าจำเป็นต่อร่างกายหลายอย่าง หากต้องการรับประทานมากติดต่อกันหลายวัน ก็จำนำมาซึ่ง “น้ำหนักตัว” ที่มากขึ้นได้ ทั้งนี้ เราควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อเผาผลาญแป้งและน้ำตาล พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ
(เครดิต : Can eating Durian and drinking alcohol kill you? Here’s what we know so far., www.sea.mashable.com/sciece/5714/can-eating-durian-and-drinking-alcohol-kill-you-heres-what-we-know-so-far, Is durian high in Cholesterol ? , https://durians.com, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ทุเรียน, sg.news.yahoo.com/blogs/fit-to-post-health/durian.com, www.calorieking.com, how many calories in raw, Durian,www.myfitnesspal.com/fruit-durian.com, www.i-kinn.com)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กินแบบไหน….น้ำตาลขึ้นสูงชัวร์!!
- 8 เหตุผล ทำไมคอเลสเตอรอลไม่ (เคย) ลด
- ทาน ‘แก้วมังกร’ ลดไขมันในเลือดได้!