COLUMNISTS

วัคซีนโควิด-19 กับปัญหาความเชื่อมั่นรัฐบาล

Avatar photo
272

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง บิดเบือน โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

ความเชื่อมั่นรัฐบาล

การดำเนินคดีกับมือโพสต์เฟคนิวส์ รวม 12 รายที่โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในหลายแห่ง รวมถึงเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลกำลังปวดหัว เพราะคนไม่ยอมลงทะเบียน แม้จะมีการโหมรณรงค์กันอย่างหนัก

การดำเนินคดีเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญกับ “คนด่า” กันทั้งเมือง ทั้งเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด และ บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นไปอย่าง “ยุ่งเหยิง-วุ่นวาย-สับสน”

เมื่อดูเฉพาะเรื่องวัคซีนโควิด-19 ก็อาจจะมองออกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาล ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง ที่ดูเหมือนรัฐบาลก็ “มึน ๆ” ว่าจะทำไงดีว่ะ!

ความผิดพลาดของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐอย่างกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนมีมาตั้งแต่เริ่มต้น ในช่วงการระบาดครั้งก่อน ไทยได้รับการชื่นชมเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาด และการรักษาผู้ป่วย เป็นที่ปลาบปลื้มอย่างมากของคนทำเนียบและกระทรวงสาธารณสุข

แต่หากจำกันได้ ในช่วงที่ผู้ผลิตวัคซีนอยู่ระหว่างการทดลองในช่วงปลายปี และเปิดให้สั่งจองวัคซีน คนกระทรวงสาธารณสุขนั่นเองที่บอกว่าขอรอดูเรื่องความปลอดภัยและราคาก่อน เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยพอ อีกทั้งเราได้ร่วมมือกับผู้ผลิตหลาย ๆ ราย เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีมาผลิตในไทย

แต่หลังจากเริ่มมีการฉีดวัคซีน และประสิทธิภาพที่ออกมา “พอไปได้” ผู้ผลิตย่อมต้องส่งให้กับผู้ที่สั่งจองซื้อก่อน ส่วนไทยได้ทีหลังและได้ไม่มากนัก เพราะไม่ได้จองวัคซีนไว้เลย มีเพียงแต่ “MOU” กับผู้ผลิตบางราย

เมื่อเกิดการระบาดรอบใหม่ ที่คนเขาด่าว่า ทุกครั้งที่มีการระบาดล้วนแต่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ตั้งแต่เรื่องลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าว สถานบันเทิงทองหล่อ และเป็นการระบาดที่เป็นสายพันธุ์อังกฤษที่มีการระบาดง่ายและรวดเร็ว ทำให้ทุกอย่างโกลาหล

คนป่วยก็เยอะ วัคซีนก็ร้องเพลงรอ เพราะเราไม่ได้สั่งจองตั้งแต่ต้น มีเพียงการร้องขอความช่วยเหลือจากจีนที่นำเข้ามาล็อตแรก แต่คนก็ไม่มั่นใจเพราะองค์การอนามัยโลกยังไม่รับรอง

ทีนี้ก็วุ่นละซิ! เพราะคนร้องหาวัคซีน ในขณะที่การระบาดรุนแรงลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว แต่กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาล ซึ่งก็คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะท่านไปรวบอำนาจการตัดสินใจไว้หมดแล้ว ก็เพียงบอกว่าจะมีวัคซีนเข้ามาเท่าโน้นเท่านี้ ดังนั้นประชาชนกรุณามาจองฉีดวัคซีนกันหน่อย ผ่าน “หมอพร้อม”

ส่วนจะพร้อมหรือไม่พร้อม ก็ดูติดตามกันเอาเอง 

ความสบสนวุ่นวายเรื่องวัคซีน ทั้งยี่ห้อและปริมาณที่เพียงพอหรือไม่ อีกทั้งการแสดงความเห็นกันมากมาย ทั้งข่าวจริง-ข่าวปลอม การเร่งฉีดวัคซีนอย่างโกลาหล ดูเหมือนกำลังดำเนินการกันอย่างเร่งรีบ ทั้งที่วัคซีนไม่เพียงพอ จนล่าสุดวัคซีน “โดนเท” ไม่มาตามนัดในโรงพยาบาลบางแห่ง จนลามไปถึงการกล่าวโทษ “วัคซีนโควตา” ผู้มีอำนาจน้อยใหญ่ในแวดวงรัฐบาล

และหากดูยอดการจองวัคซีนของประชาชนทั่วประเทศ ก็น่าตกใจไปอีก เพราะมีน้อยมากเมื่อเทียบกับเป้าหมาย ซึ่งสวนทางกับกระแสการเรียกร้องเรื่องวัคซีน แม้จะไปไหว้วานดารา หรือ คนดัง มาช่วยรณรงค์ให้มาฉีดวัคซีน แต่ก็ได้ผลน้อยมาก บางคนถูกด่าด้วยซ้ำ คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

คนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล!

ความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง (แต่คนในรัฐบาลมักจะมองไม่เห็น) ดังจะเห็นได้จากไม่ว่าใครในรัฐบาลจะพูดอะไร ก็จะโดนด่าอยู่ร่ำไป โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ออกทีวีเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แม้ว่าจะชี้แจงและให้คำมั่นต่าง ๆ แต่คนก็ไม่สนใจ ซึ่งไม่ได้หมายความว่านายกฯไม่ทำงานหรือ ทำงานไม่ดี แต่มาจากคำเดียวคือ “ความเชื่อมั่น”

ดังนั้นการกล่าวโทษข่าวปลอม-เฟคนิวส์ โดยเฉพาะในโลกของโซเชียล เป็นเรื่องไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะทุกวันนี้มันเต็มไปด้วยข่าวปลอมมากมาย แต่ทำไมคนเลือกที่จะเชื่อข่าวปลอมหรือข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งหากจำกันได้ นายกรัฐมนตรีในอดีตที่คนเชื่อถือ เมื่อพูดออกมาคนก็ฟัง และไม่สนในข่าวปลอม แต่ขณะนี้คนเชื่อ “ข่าวปลอม” แม้ว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐจะชี้แจงอย่างไรก็ตาม คนก็ไม่เชื่อ

ปัญหาเดียว คือ ความเชื่อมั่น

จากปัญหาความเชื่อมั่นนี้เอง ไม่ว่าเกิดการรณรงค์อะไรในโลกโซเชียล ก็มีการตอบรับกันอย่างเนืองแน่น ทั้งเรื่อง “ย้ายประเทศ” จนล่าสุด “7 ปีที่เปล่าประโยชน์”

เมื่อคนไม่เชื่อมั่น บรรยากาศประเทศก็เป็นอย่างที่เห็น

อ่านข่าวเพิ่มเติม: