การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อยาวนานข้ามปี และยังหาจุดจบไม่ได้ กำลังทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะโลกการทำงานของผู้คนทั่วโลก
บทบาทสำคัญทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ ก้าวไปไม่หยุด และเหมือนที่บรรดากูรูและเจ้าพ่อแห่งวงการเทคโนโลยี ตั้งแต่แจ๊ค หม่า แห่งอาลีบาบา จนถึงเจฟฟ์ เบซอส แห่งอเมซอน ที่มองไปทางเดียวกันว่าโควิด-19 จะทำให้ “การปฏิวัติดิจิทัล” มีอัตราเร่งที่เร็วขึ้นกว่า “ปกติ” นั่นหมายถึงจะเกิดเร็วขึ้น
แต่การปฏิวัติดิจิทัลจะเกิดขึ้นแค่ไหน และธุรกิจอะไรที่จะได้รับผลกระทบหรือต้องปรับตัวกันไปบ้างนั้น ขึ้นกับลักษณะของธุรกิจ แม้แต่บางประเทศที่มีรัฐบาลแบบ “โบราณ” ก็ยังมีนโยบาย 4.0 ไปกับเขาด้วย
แม้จะมีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกทำงานตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาด แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัดขึ้นในปีนี้
ล่าสุด บริติช แอร์เวย์ กำลังจะขายสำนักงานใหญ่ หลังจากมีข่าวมาก่อนหน้านี้ เพราะว่าตั้งแต่มีการระบาดรุนแรงในอังกฤษ ก็ได้เปลี่ยนไปทำงานจากที่บ้าน หรือ homewroking และจากการประเมินล่าสุด ลักษณะธุรกิจการบินไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานใหญ่โตอีกต่อไป
ส่วนหนึ่งของการประกาศขายสำนักงานใหญ่ ต้องการแก้ปัญหาทางการเงินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากธุรกิจการบินตกต่ำแบบสุด ๆ ในช่วงการแพร่ระบาด โดยอาคารสำนักงานใหญ่แห่งนี้สร้างมาแล้วกว่า 20 ปี ใช้เงินมากถึง 200 ล้านปอนด์ หรือเกือบหมื่นล้านบาท ซึ่งอาคารนักงานแห่งนี้อยู่ใกล้กับสนามบินฮีทโธรว์ ที่ชื่อว่า วอเตอร์ไซด์ และยังเป็นที่ัตั้งสำนักงานใหญ่ของ IAG ซึ่งเป็นบริษัทแม่
การเคลื่อนไหวของบริติช แอร์เวย์ ครั้งนี้ นับเป็นบริษัทในอังกฤษที่ใหญ่ที่สุดที่มีการปรับเปลี่ยน “โลกแห่งการทำงาน” ครั้งใหญ่ เพราะต่อไป พนักงานไม่จำเป็นต้องมานั่งออฟฟิศ แต่ทำงานจากข้างนอก ทั้งที่บ้านหรือร้านกาแฟ ก็ว่ากันตามสะดวก
การขยับปรับเปลี่ยน “โลกการทำงาน” ของบริติช แอร์เวย์ ไม่ใช่เป็นรายแรก ๆ เพราะก่อนหน้านี้ ธุรกิจธนาคารได้ประกาศลดขนาดของสำนักงานไปแล้ว เพราดูเหมือนว่าธุรกิจการเงิน ยิ่งเปลี่ยนไปเร็วตามเทคโนโลยีมากยิ่งกว่าธุรกิจการบิน
ธนาคาร Lloyds เป็นธนาคารใหญ่อีกราย ที่ประกาศว่าจะลดพื้นที่สำนักงานลง 20% ในช่วง 3 ปี และ HSBC ก็ประกาศเช่นกันว่าจะลดพื้นที่สำนักงานลง 40%
สำหรับประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ต้องติดตามดู เพราะสายการบินใหญ่ที่กำลังทำแผนฟื้นฟูอย่างยากลำบากในขณะนี้ เริ่มปรับลดค่าใช้จ่ายไปแล้ว และธุรกิจการเงินก็ปรับพื้นที่ให้บริการเช่นเดียวกัน โดยทยอยปิดสาขาบางแห่งไปรวม ๆ แล้วในช่วง 4-5 ปีมานี้นับพันสาขา
“โควิด-19” ไม่เพียงแค่ทำลายล้าง “ของตกยุค” แต่ยัง “สร้างสิ่งใหม่” ด้วย เหมือนดังสโลแกนหรู ๆ ของบรรดานักการตลาด ที่หยิบยืมมาจากนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังเมื่อครึ่งศวตวรรษที่แล้ว ด้วยคำว่า “Creative Destruction”
