เรียกว่า“ไม้เบื่อ ไม้เมา”ทีเดียวสำหรับ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กับคณะกรรมการบริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ในฐานะเจ้าของสัมปทานดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ลามไปยังกลุ่มคิงเพาเวอร์ เรียกว่ามีการยื่นฟ้องร้องกันมาอย่างต่อเนื่อง
อย่างล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ยกฟ้องคดี ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.นครนายก และรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เป็นโจทก์ ฟ้องคณะกรรมการ ทอท. และพวกรวม 18 ราย เป็นจำเลย ในข้อกล่าวหา ละเว้นปฏิบัติ ไม่เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ครบถ้วน ตามสัญญาบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้รัฐโดยทอท.เสียหาย 14,290 ล้านบาท
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีความเห็นว่า หากมีการกระทำความผิดตาม ชาญชัยกล่าวอ้าง ก็อาจ ถือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นก่อน ชาญชัย เข้าถือหุ้นทอท. ชาญชัย จึงไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง ถึงแม้ ชาญชัย จะเข้าถือหุ้นแล้ว และทอท.ยังคงเสียประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว ก็ถือเป็นเพียงผลของการกระทำผิด ไม่ใช่ความผิดที่เกิดขึ้นใหม่ และไม่ใช่ความผิดต่อเนื่อง ศาลจึงพิพากษาว่า ชาญชัย ไม่ใช่ผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ (ข้อมูลไทยพับลิก้า )
งานนี้ดูเหมือนไม่จบง่ายๆ เห็น ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ วันก่อนออกมาตั้งโต๊ะนั่งแถลงข่าว ทำนองเดินหน้า จะไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และจะทำหนังสือถวายรายงานให้เบื้องบนรับทราบสถานการณ์ โดยอ้างคำปรารภในรัฐธรรมนูญ
ไม่กี่วันถัดมาเห็น ธเนศ โกละกะ ชมรมทนายความเพื่อความยุติธรรม ก็ออกมาเรียกหา“ความเหมาะสมทันที” พร้อมกับตั้งคำถามว่า” คนที่มีสามัญสำนึกย่อมจะทราบดีว่า ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินภายใต้พระปรมาภิไธย พระมหากษัตริย์ การตัดสินใจจะไปถวายรายงานต่อเบื้องบนอีกจะหมายความว่าอย่างไร”
ธเนศ โกละกะ ยังบอกต่อว่าหากไปเปิดดูคนกลุ่มนี้ เคยกล่าวหาหน่วยงานและบริษัทเอกชนแห่งนี้มานานนับ 10 ปี ด้วยประเด็นเดิมๆ ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานตรวจสอบทุกหน่วยงานเท่าที่มีอยู่ในประเทศก็ไม่เป็นผล เมื่อองค์กรตรวจสอบตัดสินออกมาแล้วไม่ได้อย่างใจ กลับจะไปหาช่องทางที่ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ในช่องทางปกติ ที่สำคัญเป็นผู้ที่มีประวัติปลอมวุฒิการศึกษา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินให้ชีวิตทางการเมืองแปดเปื้อนไปแล้ว
แน่นอนฝีปากกล้าอย่าง ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เดือดจัดออกมาตอบโต้ ธเนศ โกละกะ ทันทีกับข้อกล่าวหาว่า มีประวัติปลอมการศึกษา แต่ยังจะไปยื่นฎีกา เรียกว่าทำเอา ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ นั่งไม่ติดโต้ทันทีบอกว่า ไม่เคยทำ ไม่เคยปลอมวุฒิการศึกษา สมัครเป็นผู้แทนราษฎรมาตลอด ไม่เคยถูกห้าม เป็นเรื่องที่เอามาดิส เครดิตกัน งานนี้เรียกว่า หมัดต่อหมัด ยิ่งทำให้สังคมได้เข้าใจยิ่งขึ้นใครคิดอะไรแค่ไหน อย่างไร
จริงๆถ้า ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เข้ามาทำงานเพื่อการตรวจสอบความถูกต้องในสังคมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่สำคัญยิ่งน่าจะรู้ว่าตรงไหนควร ไม่ควรต่างหาก จริงๆบ้านเมืองเราก็มีกระบวนการยุติธรรม มีองค์กรที่คอยตรวจสอบความไม่ถูกต้องอีกมากมาย แต่การจะทำอะไรที่รบกวนเบื้องบนก็ควรจะต้องระมัดระวัง ถ้าไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมแล้วไปยื่นเรื่องฟ้องร้องกันทำไมที่ผ่านๆมา
วิธีการและกระบวนการของ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่กำลังจะดำเนินการอยู่เวลานี้ โดยเฉพาะการประกาศที่จะยื่นถวายฎีกา ในความเหมาะสม สมควรแล้วหรือ ทำไมไม่ใช้ช่องทางปกติที่มีอยู่ ดำเนินการให้ครบถ้วน ยังเชื่อว่าหากหน่วยงานไหน มีการกระทำความผิดจริงย่อมได้รับผลของการกระทำผิดแน่นอน แต่หากเขาไม่ผิดจะเอาข้อหาอะไรไปยัดใส่ มันอาจจะโหดร้ายเกินไปที่จะให้เขาผิดดั่งใจที่ต้องการได้
จริงๆประเด็นปัญหาของทอท.กับคิงเพาเวอร์นั้น หากมีความเสียหายจริงอย่างที่กล่าวอ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่น่าจะปล่อยมาได้ถึงวันนี้ และดูเหมือนอีกไม่กี่ปีก็จะสิ้นสุดสัญญาเสียด้วยซ้ำ ตรงกันข้ามทอท.เองก็น่าจะเปิดตัวเลขรายได้ ที่รับจากคิงเพาเวอร์ในแต่ละปีเสียด้วยซ้ำ ว่ามีการจ่ายผลประโยชน์ให้ปีละเท่าไหร่ ทอท.เองนำเงินรายได้ส่งเข้ารัฐปีละเท่าไหร่ มีความเชื่อว่าหากมีการทุจริต หรือทำให้รัฐเสียเปรียบจริง คิงเพาเวอร์คงไม่สามารถยืนยาวดำเนินธุรกิจในสนามบินได้ถึงทุกวันนี้
ฉะนั้นองค์กรอย่างทอท.เองย่อมรู้ดี และควรจะทำความเข้าใจให้กับสังคมที่ไม่ยอมเข้าใจได้กระจ่างเสียที
