COLUMNISTS

ฝากถาม คสช. ‘3 พันล้านแก้ราคาปาล์มตกต่ำ’ ทำไมรัฐบาลไม่ทำ

Avatar photo
392

มีโอกาสได้เห็นบทสัมภาษณ์ของคุณเนวิน ชิดชอบ เกี่ยวกับเรื่องปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ผ่านรายการสดของสำนักข่าวแห่งหนึ่งมีข้อความกินใจชาวสวนปาล์มว่า

“รัฐจะยอมขาดทุน เพื่อกำไรของเกษตรกร และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีมูลค่าหลายแสนล้านหรือไม่” โดยเสนอไอเดียนำน้ำมันปาล์มไปผลิตไฟฟ้าแทนการใช้ถ่านหิน

ว่าไปแล้วความคิดที่จะนำน้ำมันปาล์มมาผลิตไฟฟ้าเพื่อพยุงราคาน้ำมันปาล์มนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นสิ่งที่ ส.ส.ใต้ของพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องมาโดยตลอด แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลคสช. เนื่องจากไปโน้มเอียงเชื่อฝ่ายราชการที่คุมนโยบายด้านพลังงานว่า มีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเตาเท่าตัว

palm

จนทำให้ตลอดกว่า 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยขยับใช้น้ำมันปาล์มไปผลิตไฟฟ้าเพื่อช่วยเกษตรกร ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วใช้เงินเพียง 3 พันล้านบาท ก็ช่วยดึงราคาปาล์มให้อยู่ในระดับที่เกษตรกรสามารถลืมตาอ้าปากได้ แทนที่จะอยู่อย่างแร้นแค้นกับราคาน้ำมันปาล์ม 2.80 บาทในปัจจุบัน

คุณเนวิน พูดว่า โรงไฟฟ้ากระบี่ไม่อยากให้ใช้ถ่านหิน ขณะที่ปาล์มล้นจังหวัด ทำไมถึงไม่ทำโรงไฟฟ้าน้ำมันปาล์มเพื่อจะได้แฮปปี้เอนดิ้ง โดยเอาปาล์มจาก 14 จังหวัดภาคใต้มาทำ

ถ้าทำอย่างที่คุณเนวินว่าอาจจะต้องใช้เงินประมาณ 50,000,000,000 (ห้าหมื่นล้านบาท) สำหรับการทำไฟฟ้า 3,000 เมกะวัตต์ในภาคใต้ในแต่ละปี ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะโรงไฟฟ้าในกระบี่ 300 เมกะวัตต์ ไม่ได้เปิดทำการเลย เนื่องจากขาดทุนเพราะใช้น้ำมันเตา จะมีการวอร์มน้ำมันเตาบ้างบางครั้งแต่น้อยมาก

การประกาศว่าโรงไฟฟ้ากระบี่มีน้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบด้วยก็ไม่เป็นความจริง เพราะตลอดการบริหารของ คสช.ไม่เคยช่วยในส่วนนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีความเชื่อผิดๆ ว่าน้ำมันปาล์มไม่ควรนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า เพราะราคาสูงเกินไป

“ข้อเท็จจริงที่ดิฉันขอนำเสนอคือสิ่งที่เป็นไปได้จริง นั่นคือ การใช้เงินเพียง 3พันล้านที่แก้ไขปัญหาได้ทันที”

ข้อมูลที่แท้จริงคือ ต้นทุนถ่านหินประมาณ 2.70 บาทต่อยูนิต ส่วนน้ำมันปาล์มดิบอยู่ที่ 17-20 บาทผลิตไฟฟ้าได้ 3.36 ยูนิต เท่ากับถ้าคิดราคาน้ำมันปาล์มที่ 20 บาท ราคาต้นทุนอยู่ที่หน่วยไฟฟ้าละ 5.95 บาท พอๆ กับราคาของไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ในหนึ่งวันหากเดินเครื่องยนต์ 24 ชั่วโมง จะสามารถใช้น้ำมันปาล์ม 1,800 ตัน 1 เดือน ใช้ปาล์ม 55,000 ตัน คูณกับราคาปาล์มที่ 20 บาท จะใช้เงินแค่ประมาณ 3 พันล้านบาท ประเทศไทยมีปาล์มล้นสต๊อกอยู่ 3 แสนตันกดอยู่ ทำให้ราคาโงหัวไม่ขึ้น

หากรัฐบาลช่วยเหลือนำน้ำมันปาล์มไปใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่อเนื่อง 6 เดือน ใช้เงิน 3,000 ล้านบาท ก็จะช่วยให้ปริมาณน้ำมันปาล์มที่ล้นอยู่หมดไป ซึ่งจะส่งผลทันทีต่อกลไกตลาดฉุดราคา

น้ำมันปาล์มที่ขณะนี้อยู่ที่ 2.80 บาท ขึ้นไปอยู่ที่ 4-4.50 บาท ในขณะที่ต้นทุนของเกษตรกรอยู่ที่ 3.50 บาท เกษตรกรก็จะอยู่ได้ เพราะเกษตรกรไม่ได้เรียกร้องว่าต้องให้ได้ราคา 5-6 บาท ขอแค่ว่าให้ประกาศทำทันที ซึ่งจะช่วยซับน้ำตาชาวสวนปาล์มได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะเกษตรกรภาคใต้เท่านั้นแต่จะเป็นรอยยิ้มของเกษตรกรสวนปาล์มทั่วประเทศ

ผลพลอยได้ที่ตามมาคือ โรงไฟฟ้าก็จะเป็นที่รักของประชาชน เพราะในยามวิกฤติไม่ทอดทิ้งแต่ช่วยชาวบ้าน โดยเฉพาะที่จังหวัดกระบี่ เคยมีการเสนอเรื่องเงินกองทุนรอบโรงไฟฟ้าว่า จะมีก็ต่อเมื่อมีการผลิตไฟฟ้า ก็จะได้เงินรอบโรงงานไฟฟ้าอีกปีละหลายร้อยล้านบาท ทุกคนก็มีความสุข ในขณะที่รัฐบาลใช้งบประมาณเพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้น

000 Hkg188409

อีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลคสช.ควรหันมาให้ความสนใจคือ ราคาน้ำมันปาล์มขวดทำไมไม่ลดลงตามราคาต้นทุนที่ต่ำลง

สมัยนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น้ำมันปาล์มหน้าโรงงานอยู่ที่ลิตรละเกือบ 30 บาท ทำให้น้ำมันปาล์มขายขวดละ 42 บาท วันนี้ราคาน้ำมันปาล์มส่งหน้าโรงงานลิตรละ 17- 18 บาท แต่ก็ยังขาย 42 บาทเหมือนตอนที่ปาล์มราคาแพงในบางพื้นที่ เท่ากับมีส่วนต่างจากราคาต้นทุนสูงถึง 24-25 บาท ทั้งๆ ที่ราคาขายน้ำมันปาล์มควรจะลดลงตามราคาต้นทุนที่ต่ำลง

คำถามคือส่วนต่างตรงนี้เข้ากระเป๋าใคร ทำไมรัฐบาลไม่ควบคุมให้เป็นไปตามราคาต้นทุนที่ต่ำลง เพราะความจริงแล้ว ราคาขายที่เป็นธรรมควรอยู่ที่ขวดละ 28-30 บาท โดยไม่จำเป็นต้องไปทำธงฟ้าเป็นสินค้าราคาถูกแต่อย่างใด ซึ่งรัฐบาลควรทำสนับสนุนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ราคาถูก ก็จะช่วยทั้งเกษตรกรสวนปาล์มและประชาชนก็ได้สมประโยชน์ด้วย

สองทางเลือกง่ายๆ ที่รัฐบาลทำได้ทันที ยังไม่รวมถึงการกำหนดนโยบายให้ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ปาล์มเป็นพลังงานทางเลือกในการผลิตไบโอดีเซล ก็จะคืนความสุขให้เกษตรกรสวนปาล์มได้แล้ว จึงอยากฝากถามรัฐบาลคสช.ว่า “รัฐจะยอมขาดทุน เพื่อกำไรของเกษตรกร และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีมูลค่าหลายแสนล้านหรือไม่” อย่าปล่อยให้คำพูดนี้เป็นแค่เพียงวาทกรรมหาเสียงก่อนเลือกตั้งเท่านั้น

และก็หวังว่ารัฐบาลคสช.จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เมื่อคนกันเองอย่างคุณเนวินไปเสนอความคิด ไม่อย่างนั้นอาจถูกครหาได้ว่ามะรุมมะตุ้มอยู่กับการสร้างความเข้มแข็งให้พรรคพลังประชารัฐด้วยคณิตศาสตร์การเมืองจากการดูดสส.เพื่อชนะศึกเลือกตั้ง จนลืม ความเดือดร้อนของประชาชน