การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะตำแหน่งสูงสุดของข้าราชการประจำอย่าง“ปลัดกระทรวง” เรียกว่าเป็นตำแหน่งที่ใครๆก็อยากลิ้มรสและไต่เต้าไปถึง โดยเฉพาะเหล่าบรรดาข้าราชการประจำ เพราะถือเป็นตำแหน่งสูงสุดในชีวิตข้าราชการนั่นคือ(ซี11) จะมีใครสักกี่คนที่จะไขว่คว้าไปถึง บางคนตำแหน่งอยู่แค่เอื้อม แต่สุดท้ายก็ยังคว้าไม่ได้
มาถึงการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงพลังงานคราวนี้ เรียกว่า“ฮือฮา”พอสมควร ที่ใครต่อใครอยู่ในสภาพมึนงง เหมือนไก่ตาแตก โดยเฉพาะข้าราชการระดับ 10 ของกระทรวงพลังงานที่เป็นตัวเต็งอย่างน้อย 3 คน ถึงกับต้อง“คอตก” เมื่อชื่อ กุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร โผล่ในวงประชุมคณะรัฐมนตรี เสนอข้ามห้วยไปนั่งปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ แทนที่ ธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงานคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการเดือนกันยายนนี้
ก็ใครมันจะไปรู้ละ!! ก็มันมีใบสั่งจากแถวๆทำเนียบรัฐบาลนั่นเอง ที่ให้ไปหยิบยกเอา กุลิศ สมบัติศิริ เข้ามาแทนที่ ธรรมยศ ศรีช่วย นั่นไง
ว่ากันว่า งานนี้กว่าจะลงเอยเป็น กุลิศ สมบัติศิริ ได้ยื้อกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ระหว่างผู้มีอำนาจเสนอชื่อของกระทรวงพลังงาน กับผู้ใหญ่ในรัฐบาล ฝั่งกระทรวงพลังงานต้องการเสนอมือรองขึ้นแท่นปลัดกระทรวง อย่างน้อยๆ ก็มี 3 ชื่ออยู่ในใจ เรียงลำดับอย่าง ประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ทวารัฐ สูตะบุตร และ ยงยุทธ จันทรโรทัย แต่ด้วย “ใจสั่งมา” ทั้ง 3 ชื่อ ที่เตรียมการไว้จำต้องเก็บพับไว้ก่อน
เรียกว่ายื้อกันเกือบจนนาทีสุดท้าย ถึงกับมีคำพูดหลุดออกมาทำนอง “จะเกษียณเลยไหม” เรียกว่าไม่ธรรมดาจริง ส่วนจะเป็นเช่นไร ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรู้ดีที่สุด
สำหรับคนที่“อกหัก”งานนี้ ยังไงก็ต้องพักใจในกระทรวงพลังงานอีกต่อไป
จริงๆ แล้วชื่อ กุลิศ สมบัติศิริ ถูกพูดถึงมาระยะหนึ่งแล้ว ที่จะส่งไปนั่งปลัดกระทรวงพลังงาน ไม่ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันสองวันนี้ บอกเลยเขาเตรียมการมาสักพักแล้ว
อันที่จริงแล้วหากเลือกได้ กุลิศ สมบัติศิริ เองอยากไปนั่งแท่นที่กระทรวงคมนาคมเสียมากกว่า แต่เนื่องด้วยกระทรวงคมนาคมเองพอจะมีคนที่มีฝีมือสามารถขยับขยายขึ้นปลัดกระทรวงได้อยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ กุลิศ สมบัติศิริ จำนน ต้องโยกตัวเองไปนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงพลังงานตามใบสั่งนั่นเอง
การโยก กุลิศ สมบัติศิริ เข้ามาสวมบทบาทพ่อบ้านใหญ่ของกระทรวงพลังงาน อาจเป็นกุนซือใหญ่ให้กับ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ ได้ในการขับเคลื่อนพลังงาน
ต้องยอมรับว่าการทำงานช่วงที่ผ่านมาของ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ เรียกว่าโดดเดี่ยวพอสมควรกับงานในกระทรวง อาจเป็นเพราะเก่งเกินไปจนข้าราชการตามไม่ทัน หรือไม่ก็เปลี่ยนนโยบายบ่อยจนตามไม่ทันอีก แต่ที่รู้ดูเหมือน “คอนเวิร์ส” เหลือเกิน
ส่วนภารกิจของ กุลิศ สมบัติศิริ กับงานในกระทรวงพลังงานเรียกว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน อย่างงานประมูลยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อ้อ..งานสำคัญอีกไม่นานเราจะเห็นการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งใหญ่ภายในกระทรวงพลังงานอีกก็เป็นได้ อย่างน้อยตอนนี้ก็มี 2 อธิบดี ที่กำลังจะเกษียณนั่นคืออธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน แต่การโยกย้ายครั้งนี้มีหวังสลับสับเปลี่ยนครั้งใหญ่ก็เป็นได้
รวมทั้งภารกิจที่จะต้องเผชิญกับเอกชนทั้งรายเล็กรายใหญ่ด้านพลังงาน ล้วนเป็นงานที่วัดฝีมือ กุลิศ สมบัติศิริ แทบทั้งนั้น
สิ่งสำคัญต้องจับตาดูเขาจะเดินเกมอย่างไรกับเรื่องพลังงานระหว่างภาครัฐกับเอกชน ที่ใครๆ ก็จับตาอยู่ตอนนี้ แต่ที่แน่ๆ กุลิศ สมบัติศิริ อาจเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ ก็เป็นได้ในยามที่ใครๆ ก็พูดว่าเขาโดดเดี่ยวนั่นเอง….