COLUMNISTS

ฝุ่นตลบ!! เช็คโผขึ้นเขียงถูกอภิปราย

Avatar photo
445

ใกล้เข้ามาทุกขณะ กับความร้อนแรงบนถนนการเมือง รอบนี้แบบคงจะต้อง ทีใครทีมัน กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คงจะดุเด็ดเผ็ดมันไม่เบาทีเดียว เอาเถอะ!! ใครจะถูก“รุมกินโต๊ะ” บ้างงานนี้ อดใจรอ เชื่อไม่เกินสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า ฝ่ายค้านคงจะหอบเอกสารยื่นประธานรัฐสภาขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน

แม้จะยังไม่ชัดเจน  ณ เวลานี้ ใครคือผู้โชคดีที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อถูกอภิปรายของฝ่ายค้าน แต่ก็เริ่มมีคนทำรายชื่อหล่นให้เห็นบ้างแล้ว แต่จะยังไม่ขอเอ่ยนามเต็มๆ เอาเป็นว่าใครที่กอดเก้าอี้รัฐมนตรี นั่งบริหารประเทศช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ไม่ใช่ 5 เดือนที่ผ่านมา) ส่วนใหญ่ก็อยู่ในโผรายชื่อเกือบทั้งนั้น โดยเฉพาะเก้าอี้ตัวสำคัญๆ ที่คุมเศรษฐกิจของประเทศ จะปฎิเสธหรือเกี่ยงงอนไม่ได้

ปิดโรงงาน1

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเผด็จศึก รอบนี้ ยึดกรอบการบริหารประเทศช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพราะมีหลักฐาน และร่องรอยทิ้งไว้ ให้เห็นผลอย่างเด่นชัด ในหลายๆด้าน ที่เด่นสุดดูเหมือนจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้อง เพราะมีดัชนีชี้วัดความแย่จากการบริหาร  อาทิ เช่น ตัวเลขการส่งออกที่ลดลง ตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลง ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทย ต่ำสุดในรอบ 65 เดือน หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โรงงานปิดกิจการ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฎให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง

ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นนั่นคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%  ส่งผลไปยังธนาคารพาณิชย์ ต่างเริ่มทยอยปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝากลงอีก 0.25% ถามว่าถ้าเศรษฐกิจดีจริงเขาทำกันอย่างนี้ไหม?

จากความดีที่ปรากฎจากการบริหารประเทศช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ เริ่มมีอาการแถของใครบางคน บางกลุ่ม กำลังแสดงอาการไม่รับผิดชอบ อ้างไม่เกี่ยว ไม่มีอำนาจ ไม่ได้คุมเศรษฐกิจ เริ่มมีอาการไม่รับผิดชอบผลงานอันโดดเด่นที่สร้างมา ที่สามารถทำให้คนตกงานกันเป็นว่าเล่น เศรษฐกิจของประเทศก็ย่ำแย่ กำลังจะชิ่งหนี แบบลอยตัวเหนือปัญหากันซะแล้ว!!

แต่ถึงอย่างไรวันนี้ ฝ่ายค้านเขามาร์คตัว ไว้เบ็ดเสร็จแล้ว ว่ากันว่างานนี้ เป้าใหญ่อยู่ที่รัฐมนตรีรัฐบาลยุคคสช. เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจจะมีส่วนผสมของรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่มีบาดแผลลึกอยู่บ้าง ฉะนั้นถึงตอนนี้ใครนั่งกุมเก้าอี้ตัวไหนไว้ก่อนหน้านี้ ทำอะไรไว้อย่าลืมหาข้อมูล ตอบโต้ฝ่ายค้านที่กำลังวางลูกทีมฝีปากกล้าไว้รอเชือดในสภาก็แล้วกัน

หากประเมินจากจำนวนผู้ที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ บอกได้เลย 99.99% คือคนของพรรคพลังประชารัฐที่ต่อยอดมาจากรัฐบาลยุคคสช.นั่นเอง ที่สำคัญยังนั่งกุมเก้าอี้รัฐมนตรีสำคัญๆทั้งสิ้น

แม้ฝ่ายค้านยังไม่สรุป และลงเอยว่าชื่อที่จะโผล่ออกมาเป็นเป้าใหญ่ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้จะเป็นใคร พอจะคาดเดาได้ในเบื้องต้น คงหนีไม่พ้น ” 3 ป” และอีก “2 หัวเรือใหญ่ด้านเศรษฐกิจ” ขณะรัฐมนตรีหน้าใหม่ก็ไม่น้อยหน้า ดูเหมือนจะมีชื่อโผล่ๆออกมาแล้วโดยเฉพาะ “2 บิ๊ก” ฝีปากกล้า สร้างตำนานสะสมเรื่องราวเก่าๆไว้ก็ไม่น่าจะรอด

ประชุมสภา1710621

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรอบนี้ อาจจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ข้อครหาที่ว่า พรรคพลังประชารัฐกำลังเปิดศึกอยู่กับพรรคร่วม ใช่หรือไม่ หากมีมูล ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรอบนี้จะเกิดอะไรขึ้น จำนวนมือที่มีอยู่ของพรรคร่วมรัฐบาลการันตีได้แค่ไหน หรือแม้ แต่มือของพรรคพลังประชารัฐเอง จะให้เชื่อได้อย่างไรว่าทุกมือจะยกให้กับผู้ถูกอภิปรายทั้งหมดจริงหรือ

ยิ่งช่วงนี้มีแต่เรื่องของความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล ที่ซ่อนตัวอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่การบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ความไม่พอใจที่สืบทอดมาจากการแบ่งเค้กรัฐมนตรี เป็นอาการเก็บกดที่ซ่อนตัวอยู่เหมือนระเบิดเวลา ฉะนั้นเมื่อการอภิปรายกำลังจะมาถึง กลุ่มคนเหล่านี้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง และกำลังจะกลายเป็นคนมีคุณค่าในรัฐสภาทันที

ขณะที่ฝ่ายค้านเองวันนี้ คุยนัก คุยหนา มีข้อมูลมากมายเพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ในช่วงเก็บข้อมูล ซึ่งมีทุกรูปแบบ ฉะนั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ อย่าเป็นเพียงแค่ สร้างราคาโอ้อวด หรือเพียงแค่การใช้สำบัดสำนวน การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือฝ่ายค้านอีกครั้ง

ทั้งหมดของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อยู่ที่การรับฟังของประชาชนคนไทยทั้งประเทศต่างหาก ว่าที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับข้อมูลของทั้งสองฝั่ง ว่าใครจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน !!