เคยไหมที่รู้สึกว่าทุกอย่างรอบตัวกำลังพังทลาย แต่สิ่งที่เราต้องการที่สุดคือ ให้ทีมงานยังคงอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าองค์กรจะเจอวิกฤติขนาดไหน
สิ่งที่แยกบริษัทที่รอด กับบริษัทที่ไม่รอดคือ คนในองค์กรยังเชื่อมั่น และพร้อมสู้ไปด้วยกันหรือเปล่า
วันนี้ผมจะเล่าถึง 5 กลเม็ดที่ใช้ได้จริง ที่จะช่วยให้ทีมเรายังแกร่งแกร่ง แม้เมื่อพายุถาโถม
- พูดตรง ไม่ซ่อนเงื่อน (Be Brutally Honest)
อย่าคิดว่าการปิดบังข่าวร้าย จะช่วยให้คนในทีมสบายใจ ความจริงคือ พอเราไม่บอก คนก็จะไปแต่งเรื่องกันเอง และมันมักจะแย่กว่าความจริงเสียอีก
ไบรอัน เชสกี จาก แอร์บีแอนด์บี ทำได้ดีมากในเรื่องนี้ ตอนโควิดเข้ามา เขาเขียนจดหมายถึงพนักงานอย่างตรงไปตรงมาว่า บริษัทจะต้องเลิกจ้าง 25% แต่เขาอธิบายเหตุผลชัดเจน บอกว่าจะช่วยคนที่โดนเลิกจ้างอย่างไร และคนที่เหลืออยู่จะได้รับการดูแลแบบไหน
เคล็ดลับคือ เราต้องบอกข่าวสารสม่ำเสมอ ใช้ภาษาง่าย ๆ และเปิดโอกาสให้ถาม อย่าลืมว่า
ถ้าไม่มีข้อมูลใหม่ ก็ควรอัปเดตว่า “ยังไม่มีอะไรใหม่” ดีกว่าเงียบ
- ฟังจริง ช่วยจริง (Listen and Act)
คนเวลาเครียดไม่ได้ต้องการคำสั่ง แต่ต้องการคนที่เข้าใจ ไมโครซอฟท์ ภายใต้ สัตยา นาเดลลา เปลี่ยนจาก “รู้ทุกอย่าง” เป็น “เรียนรู้ทุกอย่าง” โดยเน้นการรับฟังพนักงานเป็นหลัก
ผลคือ คนในบริษัทมีความสุข และผูกพันมากขึ้น แต่แค่ฟังอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำอะไรสักอย่างให้เห็นผลจริง ๆ
กูเกิล ตอนมีวิกฤติไม่ได้แค่บอกว่า “เราเข้าใจนะ” แต่ให้เงินสนับสนุน 1,000 ดอลลาร์ต่อคนสำหรับจัดพื้นที่ทำงานที่บ้าน ให้วันลาพิเศษ และจัดบริการให้คำปรึกษาฟรี
สิ่งสำคัญคือ ต้องถามว่าเขาต้องการอะไรจริง ๆ ไม่ใช่เดาเอาเอง
- ให้มีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่รับคำสั่ง (Get Them Involved)
คนเราจะรักและดูแลสิ่งที่เรามีส่วนสร้าง ดังนั้น พาทาโกเนีย แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ที่มีอายุร่วม 50 ปี ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ พอเจอปัญหาคนก็พร้อมช่วยกันแก้ เพราะรู้สึกเป็นเจ้าของปัญหาร่วมกัน
ไม่ต้องทำอะไรซับซ้อน เริ่มจากง่าย ๆ เช่น ตั้งทีมแก้ปัญหาเฉพาะ ขอความคิดเห็นก่อนออกนโยบายใหม่ หรือจัด “ชั่วโมงคำถาม” ให้ถามนายใหญ่ได้โดยตรง เมื่อคนรู้สึกว่าเสียงตัวเองมีความหมาย เขาจะรับผิดชอบกับผลลัพธ์มากขึ้น
รักษาสีสันของบริษัท ไม่ให้เป็นแค่ที่ทำงาน (Keep the Culture Alive)
หลายบริษัทพอเจอปัญหา ก็จะตัดทุกอย่างที่ไม่ใช่งาน เช่น งานปาร์ตี้ กิจกรรมสร้างทีม หรือการฝึกอบรม แต่นี่คือความผิดพลาด เพราะสิ่งเหล่านี้แหละ ที่ทำให้คนรู้สึกผูกพันกับบริษัท
แซปโปส (Zappos) ที่มีชื่อเสียงเรื่องวัฒนธรรมความสุขของพนักงาน แม้ตอนธุรกิจไม่ดีก็ยังคงรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบให้ประหยัดกว่า เช่น จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ แทนงานใหญ่ หรือเปลี่ยนจากอบรมแบบเก่า เป็นให้คนในบริษัทสอนกันเอง
กุญแจสำคัญคือ รักษาจิตวิญญาณเดิมไว้ แม้จะต้องปรับรายละเอียด
- ให้ความหวัง ไม่ใช่แค่แก้ปัญหา (Paint the Future)
คนเราต้องการความหวังว่าอนาคตจะดีขึ้น เน็ตฟลิกซ์ ตอนเปลี่ยนจากส่งดีวีดี เป็นสตรีมมิ่ง รีด แฮสติงส์ ไม่ได้แค่บอกว่า “เราต้องเปลี่ยน” แต่เขาวาดภาพอนาคตให้เห็นว่า “เราจะทำให้คนดูหนังได้ทุกเวลา ทุกที่”
การมีวิสัยทัศน์ชัดเจน ทำให้คนเข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยน แต่ระวังอย่าให้คำมั่นสัญญาที่ทำไม่ได้ เพราะถ้าไม่เป็นจริง ความไว้วางใจจะหายหมด
ดังนั้นทีมที่แกร่งไม่ได้เกิดจากดวง และการรักษาทีมให้อยู่รวมกันในยามยาก ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สั่งสมกันเป็นความไว้วางใจ
องค์กรที่รอดพ้นวิกฤติมาได้ มักจะเป็นองค์กรที่มีคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้าง แม้เวลายากลำบาก และนั่นไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว แต่เกิดจากการสร้างสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่วันปกติ
จงจำไว้ว่า ในยามที่พายุถาโถม สิ่งที่ทำให้เรือไม่จมไม่ใช่ความแข็งแรงของเรือลำเดียว แต่เป็นความสามัคคีของคนบนเรือต่างหาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลี่คลาย ‘ความซับซ้อน’ ด้วย ‘วิธีคิดเชิงระบบ’
- ติเพื่อ ‘ก่อ’ ไม่ได้ติเพื่อ ‘กด’
- ‘ความไม่แน่นอน’ ไม่ใช่ปัญหา ถ้า ‘สื่อสาร’ กันด้วยความเข้าใจ
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg