ขึ้นชื่อว่า โดนตำหนิ หรือ ติ ความรู้สึกของคนที่โดนก็เกิดความรู้สึกไม่ดีแล้ว เพราะสำหรับใครหลาย ๆ คน การตำหนิผู้อื่น หรือโดนผู้อื่นตำหนิ ล้วนแต่เป็นการบั่นทอนจิตใจอย่างหนึ่ง
จะมีสักกี่คนกันที่กลับชอบการถูกตำหนิ ยืดอกรับอย่างหน้าชื่นตาบาน แล้วยังสามารถนำคำตำหนิ หรือคำสอนต่าง ๆ ของคนอื่นมาประยุกต์ หรือปรับปรุงตนเองให้พัฒนาต่อไปได้
พูดกันตามจริงแล้ว คงไม่มีใครชอบการตำหนิ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงจะขึ้นอยู่กับการตำหนิด้วยว่า ออกมาในลักษณะแบบไหน เป็นการติเพื่อก่อ หรือ เป็นการติเพื่อทำร้ายจิตใจคนฟัง ประมาณว่า ระบายอารมณ์ของตัวเองอะไรแบบนั้น
ดังนั้น การติ หรือการตำหนิจึงจัดว่าเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ของผู้นำ หรือเพื่อนร่วมงานในการเลือกสรรหาวิธีการว่ากล่าวตักเตือน เพื่อรักษาสัมพันธภาพ และมิตรภาพจากคนรอบข้างให้คงอยู่ต่อไป
วันนี้เลยขอนำเทคนิคดี ๆ เกี่ยวกับการตำหนิมาแนะนำกัน อย่างน้อย ๆ เพื่อนของเรา ลูกน้องของเรา จะได้ไม่เกิดความรู้สึกเชิงลบกับเรา แล้วยังรู้สึกว่า คำตำหนินั้น มีแรงกระตุ้นให้อยากพัฒนาตนเองเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ประการแรก พยายามบอกให้เขารู้สึกว่าเรา “คาดหวัง” กับเขา มากกว่าที่เขาทำออกมาในตอนนี้ แทนที่จะบอกว่า “ฉันผิดหวังในตัวคุณจริง ๆ นะ” ก็อาจจะพูดออกมาในลักษณะ
ตัดคำพูดเชิงลบ (Negative word) หรือ ทิ่มแทงความรู้สึก (Offensive word) ออกให้หมด แล้วแทนที่ด้วยคำเชิงบวกแทน
ใส่คำอนาคตลงไป เช่น ถ้า / คง / น่าจะ / คงจะ / ควร เช่น “ทำไมรสมันจืดแบบนี้…” ให้ลองเปลี่ยนเป็น “แกงนี้รสชาติดีนะ ถ้าเพิ่มรสเผ็ดกับเค็มอีกสักนิด จะดีขึ้นอีกระดับเลย”
เรียงคำใหม่ เป็น คำอนาคต+รูปประโยคเชิงบวก เพราะปกติในขณะที่พูด คนเราจะรับรู้อารมณ์ชัดเจนกว่าเนื้อหาที่พูด
ถ้าพูด คำพูดบวก+อารมณ์ลบ เช่น “ทำข้อสอบได้ไหม” พูดด้วยอารมณ์ลบ จะกลายเป็นประชดทันที (ลองพูดกับตัวเองก่อนก็ได้ค่ะ) ในทางกลับกันถ้าพูดคำพูดลบ+ อารมณ์บวก จะกลายเป็นอารมณ์บวกแทน
ฉะนั้น คำพูดบวกที่มาพร้อมอารมณ์บวกจะส่งพลังบวกระดับ 10 ให้ผู้ฟังกันเลยทีเดียว
สรุปได้ว่า การตำหนิไม่ใช่สิ่งที่ผิด หากการตำหนินั้น เป็นการหวังดี ให้ผู้ถูกตำหนิปรับปรุงตนเอง และใช้ศิลปะการพูดที่ไม่ทำให้เสียความรู้สึก
กระซิบบอกนิดนึงว่า เนื้อหาที่เกี่ยวกับศิลปะการพูดในงานธุรกิจ ไม่ว่าจะในงานอุตสาหกรรมบริการหรืองานแขนงอื่น วิทยาลัยดุสิตธานีของเราก็มีสอนให้กับนักศึกษาด้วยนะคะ สนใจจะมาเรียนกันไหมล่ะเออ

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘Soul Food’ อาหารกับ ‘ความคิดถึง’
- ‘วันชื่นคืนสุข’ ในกระแส ‘Nostalgia Tourism’ ท่องเที่ยวแนวโหยหาอดีต
- ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนมา ‘เที่ยว’ กันเถอะ
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg