COLUMNISTS

อบายมุข

วีระพันธ์ โตมีบุญ ●อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ และคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

11 เมษายน 2568

อบายมุข

อบายมุข คือช่องทางของความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ เหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้กว่า 2,500 ปี จนบัดนี้กลุ่มคนที่หมกมุ่นมัวเมาก็ยังมีอยู่มากมาย

การถ่ายทอด ชี้ทางสว่างจึงต้องทำต่อไป ต่อไปและต่อไป

ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรที่เลื่อนไป ไม่ได้ถอนหรือเลิกราวันหนึ่งข้างหน้าก็คงจะกลับมา

อบายมุขประกอบด้วย 1.การติดสุราและของมึนเมา 2.เที่ยวกลางคืน 3.เที่ยวดูการละเล่น 4.ติดการพนัน 5.คบคนชั่ว 6.เกียจคร้านการงาน

เหล่านี้ คือสิ่งที่แวดล้อมอยู่รอบตัวเรา วิญญูชนคนธรรมดารู้ดี ล้วนเป็นพฤติกรรม ลักษณะนิสัย ที่เป็นโทษมากกว่าประโยชน์ ไม่มีใครอยากให้คนใกล้ตัว ลูกหลาน ญาติมิตร เป็นหรือลงไปเกลือกกลั้ว โดยเฉพาะสุรา การพนัน การเที่ยวกลางคืน

นอกจากคนที่เห็นแก่ประโยชน์หวังร่ำรวยในธุรกิจบาป

การปัดป้อง ต่อต้านทางแห่งความเสื่อมเหล่านั้น ยากกว่าเข็นครกขึ้นเขา เราจึงควรช่วยกันสร้างสังคมดีๆ ชวนกันสร้างเกราะป้องกัน ไม่ให้ลูกหลานตกเป็นเหยื่อหน้าใหม่ของอบายมุขทั้งปวงดีกว่า

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล) ภายใต้กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พยายามแสวงความร่วมมือกับโรงเรียน สาธารณสุขในพื้นที่ ชมรมคนหัวใจเพชร ขับเคลื่อนการ ลด ละ เลิกเหล้าอย่างจริงจัง เป้าหมายเพื่อลดการเกิดนักดื่มน้ำใหม่

ภาคเหนือตอนบนบางจังหวัด บางอำเภอ มีวิถีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชีวิตประจำวัน อาจไม่รู้หรือละเลย ไม่ใส่ใจการกระทำจะเป็นแบบอย่างให้กับลูกหลานในครอบครัว

ทั้งที่มันคือต้นทางความเดือดร้อนเสียหายตั้งแต่บุคคล ครอบครัว ชุมชนนำมาซึ่งความเสี่ยงอันตราย จากอุบัติเหตุทางถนนเพราะเมาแล้วขับ

การรณรงค์ป้องกันเรื่องเล็กๆระดับพื้นที่แบบนี้ อาจเล็กจนองค์กรระดับรัฐมองข้าม

แต่บางชุมชนคนในพื้นที่ถึงแม้ไม่มีหน้าที่โดยตรงก็เข้ามาร่วมกันป้องกันและได้ผล

ตัวอย่าง ครูโรงเรียนชุมชนบ้านแม่สุก อ.แม่ใจ จ.พะเยา พยายามจัดกิจกรรม ชวนเด็กมาเป็นแกนนำขยายผลให้รู้ถึงโทษภัยไม่กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ เริ่มจากเพื่อนในชั้นเรียน ขยายผลสู่คนในครอบครัว

ทำโครงการ “18+1” รวมพลัง 18 โรงเรียนประถมศึกษา และ 1 โรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่

ระดับชุมชน มีการจัดตั้งชมรมคนหัวใจเพชร จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่อง เริ่มจากงดเหล้าในงานศพ ขยายไปสู่การงดในงานประเพณี งานบุญต่าง ๆ ในช่วงปีพ.ศ. 2564-2565 พร้อมกับจัดตั้งกองทุนกระปุกออมสิน ให้ผู้เลิกเหล้าออมเงิน เอาไปใช้ช่วยสมาชิก ยามเจ็บป่วย เป็นกำลังใจให้กัน

เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ คนที่เลิกเหล้าก็เห็นประโยชน์แก่ตนและครอบครัวทั้งระยะปัจจุบันและวันข้างหน้า