COLUMNISTS

อนาคตสุขภาวะของชาติ

วีระพันธ์ โตมีบุญ ●อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์ บรรณาธิการข่าวเว็บไซต์ และคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

21 มีนาคม 2568

อนาคตสุขภาวะของชาติ

ท่ามกลาง ข้อสงสัยการใช้จ่าย การลงทุนในกองทุนระบบประกันสุขภาพ แต่อีกด้าน ต้องยอมรับว่าระบบบริการสุขภาพคุของไทยมีคุณภาพและดูแลประชากรอย่างทั่วถึง

ที่มีเสียงแสดงความไม่พอใจความล่าช้า แต่นั่นคือภาพสะท้อนว่าจำนวนผู้เข้ารับบริการมีมาก ข้อเท็จจริงของความแออัด อุ่นหนาฝาคั่งนั้นได้รับบริการทุกคน ไม่มีใครถูกไล่ให้กลับไปนอนป่วยโดดเดี่ยวที่บ้าน

ความขัดข้องในบริการที่มี ผู้เกี่ยวข้องก็พยายามแก้ไขไปตามเนื้อผ้าและข้อจำกัดงบประมาณ แต่แท้จริงองค์กรที่รับผิดชอบการจัดการระบบ ก็กังวลกับปัญหาที่จะเกิดในอนาคต

การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ คาดว่าปี พ.ศ. 2575 ประชากรอายุ60 ปีขึ้นไป จะมากกว่า 20% ของทั้งหมด

คนวัยเกษียณปัจจุบัน ที่มีความรู้ ดูแลสุขภาพ แข็งแรงดี ก็เพียงส่วนหนึ่ง แต่กลุ่มที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ผู้ทุพพลภาพจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ถึงตอนนั้น ความต้องการบริการดูแลสุขภาพและสังคมสงเคราะห์ จะมากกว่าปัจจุบันเป็นเท่าตัว

กระทรวงสาธารณสุขมีแผนเพิ่มจำนวนพยาบาลวิชาชีพ120,000คนภายใน10ปี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าจากการได้เข้าร่วมประชุมกับสภาการพยาบาล หารือถึงแผนการเพิ่มพยาบาลอีก 1.2 แสนคน ในเวลา 10 ปี เมื่อมองไปข้างหน้าอีก 10 ปี ก็ไม่ทราบคนป่วยจะเพิ่มอีกเท่าไหร่

ท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์บอก ปัจจุบันตัวเลขการเข้าโรงพยาบาลประมาณ

304 ล้านครั้งต่อปี พยาบาล 1.2แสนคนที่ผลิตก็ไม่พออยู่ดี จึงต้องทำแผนใหม่เพื่อแก้ปัญหา

ท่านมองไปที่กลุ่มผู้ป่วยNCDs หรือโรคไม่ติดต่อปัจจุบันเข้าใช้บริการโรงพยาบาล 130 ล้านครั้ง ใช้งบประมาณดูแล 79,000 ล้านบาทหรือ 52% ของงบสปสช.

NCDเป็นความป่วยไข้จากพฤติกรรม ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อลดอาการความเสี่ยงได้ จากการระวังการบริโภค การออกกำลังกาย ไม่ใช้ชีวิตเนือยนิ่ง ยุทธศาสตร์ที่จะนำมาใช้ คือการให้ความรู้เพื่อลดผู้ป่วยกลุ่มนี้โดยอาศัยพยาบาลเป็นผู้ถ่ายทอด

ซึ่งก็จะดูดี น่าจะมีความหวังในทางบวก

ถึงอย่างไรก็ตาม กลุ่มประชากรวัย 60 ปีก็ต้องเดินไปสู่ความเป็นผู้สูงอายุช่วงปลายคือเกิน 80 ปีจนได้ในวันหนึ่ง ความต้องการบริการจากโรงพยาบาลความสามารถทางการแพทย์และบุคลากรก็ยังมีสูงอยู่ในอนาคต

พยาบาลเพียงที่เพิ่มขึ้นเพียงแค่หลักแสนใน 10 ปีข้างหน้า อาจช่วยได้เพียงระดับหนึ่ง

การพัฒนาระบบการดูแลการรักษาไม่ว่าจะเป็น AI บริการการแพทย์ทางไกลคงต้องเร่งการพัฒนา โดยปัจจุบันสถาบันการศึกษาในประเทศหลายแห่งก็กำลังเร่งผลิตบุคลากร