สุดขั้ว จากเอลนีโญ สู่ลานีญา
พ้นจากฤดูร้อนอุณหภูมิสูง 40 องศา พอจะผ่อนคลายกับฝนต้นฤดู ก็มีรายงานภาวะลานีญาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ชวนกังวลใจต่อปัญหาน้ำท่วมปลายปีซะอีกแล้ว
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุ ว่า อิทธิพลจากเอลนีโญช่วงที่ผ่านมา อากาศร้อนแห้งแล้ง กระทบต่อกิจกรรมที่ต้องพึ่งน้ำ สินค้าการเกษตร มีข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา จะเข้าสู่ภาวะลานีญาเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม อาจมีฝนตกหนักมากกว่าปกติ คาดว่ากระทบกับกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ พวกผักสด ผลไม้สด ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นจากอุปทานขาดแคลน เพราะน้ำมากไป ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง
กลุ่มที่เกรงมหาอุทกภัย 2554 จะกลับมาก็มี นักวิชาการบางคนบอกมีโอกาสที่ภาวะรุนแรงอากาศสุดขั้ว ฝนตกเกิน 100 มม.ใน 24ชม.อาจเกิดขึ้น
ความกังวลจากข้อมูลวิชาการเกิดขึ้นได้ แต่ก็ควรฟังผู้มีหน้าที่โดยตรง การพยากรณ์อากาศที่น่าเชื่อถือ ต้องเป็นข้อมูลช่วงใกล้เคียง ถ้าเก็งว่าพรุ่งนี้ หรืออาทิตย์หน้า ฝนจะตกหรือไม่ มักเป็นตามนั้น แต่ถ้าถามว่าเดือนมิถุนายนปีหน้าฝนจะมากหรือน้อย คนที่รับผิดชอบคงไม่ตอบ
ประเด็นน้ำจะท่วมหนักขนาดปี2554หรือไม่ โดยเฉพาะภาคกลาง กรุงเทพฯ อดีตอธิบดีกรมชลประทานท่านหนึ่งเคยบอก ให้ดูฝนทางเหนือช่วงต้นปีและปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก 2 แห่ง คือเขื่อนภูมิพล จังหวัดตากและเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์
”บันทึกเหตุการณ์มหาอุทกภัยปี 2554” บนเว็บไซต์สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ที่สรุปข้อมูลรอบด้าน อธิบายสาเหตุเฉพาะด้านธรรมชาติมี 3 เรื่องใหญ่
- ฝนมาเร็วกว่าปกติ ช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม 2554 สูงกว่าค่าเฉลี่ย 35% โดยฝนมาเร็วกว่าปกติตั้งแต่เดือนมีนาคม มากกว่าค่าปกติถึง 227% เดือนเมษายนก็มากกว่า 45% เนื่องจากลานีญาค่อนข่างแรงช่วงครึ่งแรกของปีและปลายปี
มีพายุ5ลูก ปลายเดือนมิถุนายนพายุโซนร้อน “ไหหม่า” ถล่มภาคเหนือ ปลายเดือนกรกฎาคม ยังไม่ทันได้ระบายน้ำตามเกณฑ์ พายุ “นกเตน” ถล่มซ้ำภาคเหนือพื้นที่เดิม ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น หลังจากนั้นพายุ “ไห่ถาง”กระหน่ำพื้นที่ริมแม่น้ำโขง กระทบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถัดมาวันที่ 27-29 กันยายน พายุ “เนสาด” สาดเข้าภาคคตะวันออกเฉียงเหนือและด้านตะวันออกของภาคเหนือ และสุดท้ายช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคม ”นาลแก” ทำให้มีฝนมากทางภาคกลางและภาคตะวันออก ในจังหวะที่ภาคกลางกำลังเป็นทางผ่านของน้ำหลากจากภาคเหนือ
พายุ และสภาพอากาศ ทำให้ปี 2554 มีฝนมาก กรุงเทพฯปริมาณฝนสะสมสูงสุด โดยวันที่ 1 ธันวาคม 2554 มีสะสมถึง 2,257.5มม.เทียบกับค่าเฉลี่ย 20 ปี ของสำนักการระบายน้ำ สิ้นเดือนพฤศจิกายนมี 1,654.4 มม. และค่าเฉลี่ย 30 ปี ของกรมอุตุนิยมวิทยา สิ้นเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 1,973.5 มม.
- ปริมาณน้ำไหลลงสะสมในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมีข้อจำกัดในการระบายจากสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อน
- น้ำทะเลหนุนบริเวณอ่าวไทย ช่วงปลายเดือนตุลาคม กลางเดือนพฤศจิกายน และปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้การระบายน้ำทำได้ล่าช้า
เป็นธรรมดาข้อมูลบางด้าน สร้างความกังวลได้ จึงต้องฟังอีกฟากจากหน่วยงานหรือผู้มีหน้าที่โดยตรง
ครึ่งแรกของปี 2567 ไม่มีพายุสักลูก อ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 2 แห่ง มีประมาณรวมกันแค่ 43% สถิติน้ำฝนสะสมจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม 2567 มีแค่265.6 มม.ต่ำกว่าค่าปกติ 82.8มม.หรือน้อยกว่ากัน 24%
ฟังหูไว้หู ดูข้อมูลอากาศให้ผ่อนคลาย ปลายปีค่อยตื่นเต้นก็ยังทัน
อ่านขาวเพิ่มเติม
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg