COLUMNISTS

บริหาร ‘เวลา’ ทำงานอย่างมืออาชีพ พิชิตเป้าหมาย

Avatar photo
ผู้รื่นรมย์กับไลฟ์สไตล์ของชีวิต ด้วยทัศนคติบวก ชอบท่องเที่ยว กิน

บริหาร “เวลา” ทำงานอย่างมืออาชีพ พิชิตเป้าหมาย

เคยมีความรู้สึกบ้างไหมว่า มีเวลาที่ไม่เพียงพอในการสะสางงาน อยากจะมีเวลาสัก 36 ชั่วโมง เพื่อที่จะทำงานทุกสิ่งทุกอย่างให้ลุล่วงไป ใช่หรือไม่ บางที เราอาจจะต้องพิจารณาการใช้เวลา 24 ชั่วโมง ใน 1 วัน ของเราและพยายามกำจัดสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายนอก ซึ่งแย่งชิงเวลาของเราลงไปเสียบ้าง ก่อนอื่นเราควรจะตรวจดูงานที่ต้องทำให้เสร็จและถามตัวเราเองว่า

เวลา

1.เราจะต้องเสียเวลานานเท่าไร คนส่วนใหญ่แล้ว มักจะเสียเวลาให้กับเรื่องที่ไม่สำคัญเสมอ ดังนั้น ถ้าเราจะลงมือทำในสิ่งใดก็ตาม ให้ถามตัวเราว่า อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราไม่ทำมัน หรือเก็บไว้ทำในวันหลัง  คำถามแบบนี้ จะสามารถทำให้เราจัดเวลาและความสำคัญตามลำดับของงานได้ดีขึ้น ซึ่งในบางครั้งการทำงานงานบางงานไม่ต้องเร่งรีบที่จะแก้ปัญหาไปเสียทุกอย่าง บางปัญหา มันมีเวลาของมัน และจะคลี่คลายได้ด้วยตัวมันเอง หรือไม่ก็มีผู้อื่นที่ต้องมาช่วยกันแก้ไข

2.เส้นตายที่กำหนดขึ้น บีบบังคับเรามากหรือไม่ เราอาจจะมีความรู้สึก เหมือนถูกบังคับ เมื่อจะต้องทำงานให้เสร็จในเวลาที่กำหนด ดังนั้นจึงควรดูเส้นตายของงานแต่ละชิ้นที่อยู่ตรงหน้าว่า เวลาที่กำหนดขึ้นนั้น เกิดขึ้นเพราะธรรมชาติของงาน หรือเพราะอะไร คิดว่างานควรจะเสร็จในเวลาเท่านั้นเท่านี้ ในบางครั้ง แม้เราจะขีดเส้นตายขึ้นแล้ว ก็ยังอาจจะเลื่อนได้ เพราะบางที เราก็ต้องการเวลาสำหรับการพักผ่อนบ้าง  ดังนั้น จงยึดเวลาออกไปบ้าง ทำงานด้วยความตั้งใจ  แต่ในลักษณะที่พอสบายแล้วเราจะพบว่าเราสามารถทำงานได้ดีขึ้น

3.งานที่เราทำอยู่ผู้อื่นทำได้หรือไม่ ถ้าเราเป็นเช่นหัวหน้าในบางครั้งเราอาจจะเผลอไปทำงานในส่วนงานของลูกน้องโดยมีความคิดว่าเราทำเองจะดีกว่าสะดวกกว่า ซึ่งจริงๆแล้วเราควรทำงานที่เป็นงานที่เป็นหน้าที่เราโดยตรง เราอาจจะต้องมอบหมายงานบางชิ้น ให้ลูกน้องที่รับผิดชอบงานที่ไว้ใจได้ทำ และเมื่อเวลาผ่านไปชั่วระยะหนึ่ง  เราจะแปลกใจว่า ทำไมคุณจึงควบคุมงานนั้นไว้เพียงคนเดียว ซึ่งจะส่งผลกับการบริหารเวลาของเราได้ดีขึ้น

4.งานที่ทำอยู่เราให้เวลาอย่างพอเพียงหรือไม่ ถ้าในการทำงานของเรา มักจะต้องจบลง ในลักษณะของความรีบเร่งอยู่เสมอ ไม่มีการกำหนดอย่างแน่นอน และทำให้ทุกคน ต้องวุ่นวายไปหมด เมื่อมีงานเข้ามา เราอาจจะต้องจัดระเบียบปฏิบัติขึ้นเสียใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงสภาวะวิกฤติเช่นนี้ เพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้เสียเวลาในการบริหารไปโดยเปล่าประโยชน์  แต่สภาพวิกฤตินั้น มิใช่สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงได้เสมอไป ในบางครั้ง ก็อาจจะต้องเกิดขึ้น แต่ควรให้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างดี

5. เขียนหน้าที่ตามที่เราจะต้องทำตามที่เรามองเห็น จากนั้น ลองกำหนดเวลาว่า แต่ละหน้าที่นั้นจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ แล้วนำเวลาที่ใช้มาเปรียบเทียบกับเวลาที่ประมาณการไว้ เราจะสามารถเห็นข้อแตกต่างระหว่างเวลาและทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะปรับการใช้เวลาและการตั้งเป้าหมายขึ้นอย่างชัดเจน และหมั่นทบทวนการใช้เวลาของเราที่ตั้งใจไว้

ลองปรับให้เข้ากับตัวเราในเวลาของเราในเป้าหมายทั้งด้านการงานและการใช้ชีวิต เพราะเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าและไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้อีก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่