COLUMNISTS

ลึกแต่ไม่ลับ!! ‘เสี่ย ส.’ เปิดเกม เคลียร์ปม ‘ประธานสภา-นายกรัฐมนตรี’

Avatar photo

จัดตั้งรัฐบาล ยังไงมันต้องจบ!! ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งประธานสภา หรือนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ทุกอย่างมันต้องยุติ  ส่วนใครจะได้ตำแหน่งเหล่านี้ไปอดใจรอ กระบวนการกำลังจะเกิดขึ้นนับจาก 4 กรกฎาคม 2566  เป็นต้นไป 

อันที่จริงก็ไม่ได้มีสูตรอะไรมากมาย จัดตั้งรัฐบาลยังไงมันก็เป็น 8 พรรคร่วมรัฐบาล อยู่นั่นแหละ!! จับมือกันมาขนาดนี้แล้ว

เพียงแต่การจัดการรอบนี้ ทั้งเลือกประธานสภาและนายกรัฐมนตรี มันทอดเวลายาวเกินจนทำให้เกิดคลื่นแทรกระหว่างทางที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลคุยคุยกัน แถมยังมีผู้สันทัดทางการเมือง ออกมาวางสูตรจัดตั้งรัฐบาลกันเป็นระยะๆ จนทำให้เกิดความเชื่อกันไปแล้ว ว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาล อาจล้มเหลวจนกลายเป็นสูตรใหม่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมา

มาถึงวันนี้ เราคงเริ่มเห็นแล้วความชัดเจน

สเต็ปแรก … เก้าอี้ประธานสภา เป็นของพรรคก้าวไกล

สเต็ปต่อมา … 2 รองประธานสภา เป็นของพรรคเพื่อไทย

จัดตั้งรัฐบาล

อันที่จริงถ้าไม่กลัวเสียหน้าหรือเสียสูญอะไร การได้ตำแหน่ง 2 รองประธานสภา ถือว่าไม่น้อยทีเดียว สำคัญการทำหน้าที่ก็ไม่ต่างอะไรกันมากนัก สมัยคุณชวน หลีกภัย เป็นประธานสภา อีก 2 รองประธานสภา ก็ทำหน้าที่ได้ไม่แพ้กัน

ฉะนั้น 4 กรกฎาคม 2566 บันไดขั้นที่หนึ่ง การเลือกประธานสภาและรองประธานสภาน่าจะจบลง แม้จะใช้วิธีการ “โหวตลับ” ก็ตาม สัญญาต้องเป็นสัญญา!! ส่วนเป็นใครบ้างอดใจรอ งานนี้ ไม่มี “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” 

แต่ที่น่าสนใจบันไดขั้นที่สองมากกว่านั่นคือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่น่าจะเกิน 13 กรกฎาคม 2566 ที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีข้อสัญญาชู “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นรัฐมนตรี แม้จะมีข้อตกลง หาก “พิธา” ไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลอยู่ช่วยในการจัดตั้งรัฐบาลไม่แยกตัวออกไปไหน นี่คือสัญญาต่อกัน หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางโหวตนายกรัฐมนตรี

จัดตั้งรัฐบาล

จากการสอบถามและค้นหาข้อมูล แอบได้ยินมาว่ายังไง “พิธา” ก็น่าจะผ่านด่านอันโหดร้ายอย่างที่หลายคนคิดนั่นก็คือ “ด่านส.ว.” แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องการมือส.ว.ทั้ง 250 คน ต้องการเพียงไม่ถึง 100 คนเท่านั้น

วันนี้เขาว่ามี “ซูเปอร์สตาร์ เสี่ย ส.” เดินเกมจัดการล่วงหน้าไปแล้ว การยกมือโหวตให้ “พิธา” ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรี  หากทุกอย่างฉลุย อาจทำให้หลายกลุ่มผิดหวังก็เป็นได้ ฉะนั้นวันนี้อย่าเพิ่งคิดกันเยอะ เดี๋ยวจะผิดหวัง หรือไม่เป็นดั่งหวังที่ตัวเองคิด ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติการเมืองไทย

ว่ากันว่า“ซูเปอร์สตาร์ เสี่ย ส.” รายนี้ ตัวจริงเสียงจริง ทำงานใกล้ชิดผู้มีอำนาจตัวจริง!! ทำทุกอย่างเพื่อโชว์ศักยภาพตัวเอง ลงมือลงแรงเทหมดหน้าตัก!! 

มาถึงตอนนี้ นาทีนี้ ชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” น่าจะยังขึ้นทำเนียบนายกรัฐมนตรีคนต่อได้อยู่ ยกเว้นระหว่างทางโหวตนายกรัฐมนตรี มีเหตุฉุกเฉินอย่างไม่คาดคิด จนทำให้การโหวต “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ไม่ผ่าน เมื่อถึงตอนนั้นค่อยเป็นคิวของพรรคเพื่อไทย แต่ ณ เวลานี้ ยังไม่มีอะไรน่าห่วง

ฉะนั้นสารพัดสูตรจับมือจัดตั้งรัฐบาลที่ออกมาจะเป็นจริงแค่ไหนว่ากันไป แต่ที่แน่ๆ “สูตรลุงป้อม” เป็นนายกรัฐมนตรีดูมันเลือนลางเหลือเกิน วันก่อนเห็นข่าว ลุงป้อม ไปอังกฤษ คนก็ฮือฮากันใหญ่ว่าไป ดีลลับกับทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

เอ้า!! เฉลยก็แล้วกัน “ลุงป้อม” เขาไปดูแข่งม้าที่ลอนดอน ส่วนใครชวนไปซื้อตั๋วให้ไม่รู้? เอาเป็นว่างานนี้ไม่เจอแม้แต่เงา ทักษิณ ชินวัตร ส่วนจะเจอใครกลุ่มไหนต้องถามเจ้าตัวเอาเอง สำคัญไม่คิดว่าจะบ้าขนาดไปหนุน “สูตรลุงป้อม” เป็นนายกรัฐมนตรี สูตรนี้ยังไงขอพับไว้ก่อน

จัดตั้งรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทันทีที่มี “สูตรลุงป้อม” เป็นนายกรัฐมนตรี พวกกระหายตำแหน่งวิ่งกันให้พล่าน ควานหาคนใกล้ชิด หวังที่จะเกาะเกี่ยวขอเข้าร่วมรัฐบาล “สูตรลุงป้อม”  นี่หรือการเมืองไทยช่างคิดได้ หวังแต่ตำแหน่งอย่างนั้นหรือ

มาถึงวันนี้บอกได้เลย การเมืองไทยจัดตั้งรัฐบาลมีสูตรเดียวนั่นคือสูตร 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” ดังนั้นสารพัดสูตรอาจต้องพับไว้ก่อน

แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้แว่วๆ มาว่ากำลังมี “พรรคขนาดจิ๋ว” พยายามดอดขอเข้าเอี่ยวร่วมกับ 8 พรรคการเมืองอยู่หวังที่จะเข้าร่วมรัฐบาล ส่วนเป็นจะพรรคไหนให้จับตาดูให้ดี ตอนยกมือโหวตประธานสภากับนายกรัฐมนตรี มีเสียงส่วนเกินจาก “พรรคขนาดจิ๋ว” เข้ามาหนุนแน่นอนครบัท่าน!!

เมื่อเสร็จภารกิจประธานสภาและโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว สเต็ปต่อไป เป็นเรื่องของตำแหน่งคณะรัฐมนตรี แม้ตอนนี้จะเริ่มจับจองหรือคุยกันบ้างแล้วก็ตาม แต่โอกาสสลับสีบเปลี่ยนมีตลอดเวลา ฉะนั้นพวก “นกรู้” ทั้งหลายอย่างเพิ่งเป็นนักกรีฑา เดี๋ยวจะวิ่งผิดลู่ อดใจรอ แม้จะมีบางกลุ่มออกวิ่งไกลไปถึงลอนดอนและดูไบแล้วก็ตาม เบาได้ เบา!!!

อ่านข่าวเพิ่มเติม