“เดอะมอลล์” ประกาศปั้นย่านการค้า ดิ เอ็ม ดิสทริค ร่วมยกระดับกรุงเทพฯ เทียบเท่าย่านการค้าดังระดับโลก คาดสิ้นปี 2566 ครบสมบูรณ์แบบ ล่าสุดทุ่ม 1.5 หมื่นล้านต่อจิ๊กซอว์ล่าสุด ดิ เอ็มสเฟียร์
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท สุขุมวิทซิตี้มอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป มุ่งสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่วงการค้าปลีกไทย ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ศูนย์การค้าระดับโลกกับโครงการ ดิ เอ็ม ดิสทริค (THE EM DISTRICT)
สำหรับโครงการ ดิ เอ็ม ดิสทริค ประกอบด้วย ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ ที่เปิดให้บริการแล้ว และล่าสุดใช้งบลงทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท พัฒนาโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ (THE EMSPHERE) เพื่อต่อเติมความสมบูรณ์แบบให้ ดิ เอ็ม ดิสทริค เป็นย่านการค้าที่ช่วยระดับกรุงเทพฯ เทียบเท่าย่านการค้าดังในระดับโลก เช่น ปารีส ลอนดอน นิวยอร์ก เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง โตเกียว โซล
ทั้งนี้ หากรวมงบประมาณทั้งโครงการของ ดิ เอ็มดิสทริค คาดว่าจะไม่น่าต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากที่เดิมวางเป้าใช้งบประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการเพิ่มเติมปรับปรุงโครงการเพื่อให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
ปัจจุบัน ดิ เอ็มสเฟียร์ ก่อสร้างคืบหน้าแล้วมากกว่า 90% ส่วนงานสถาปัตยกรรมคาดว่าจะเริ่มเดินหน้าได้ช่วงปลายปีนี้ คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการ ดิ เอ็มสเฟียร์ เต็มรูปแบบได้ในเดือนธันวาคม 2566
เปิดความโดดเด่น 3 จิ๊กซอว์สำคัญ
สำหรับ ดิ เอ็มสเฟียร์ เป็นศูนย์การค้า Hybrid New Entertain & Hang Out ที่มีร้านอาหารรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อีกทั้งเป็นศูนย์การค้าแรกในเมืองไทยที่มี Beach Club ที่เหมือน Beach Club ชายทะเลสมุย ภูเก็ต ให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการ มีแบรนด์ชั้นนำรวมกว่า 300 แบรนด์และมีสกาย วอล์ก เชื่อมทุกตึกเดินหากันได้
จุดเด่นของ ดิ เอ็มสเฟียร์ คือ FUTURE RETAIL ศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่ไม่เคยหลับใหล (SLEEPLESS METROPOLIS) โดยคัดสรร รวบรวมความบันเทิง นวัตกรรม และความเป็นลิมิเต็ดต่าง ๆ คาดว่าจะมีลูกค้าหมุนเวียน 8 หมื่น-1 แสนคนต่อวัน
ขณะที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ จะจับกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก โดยมีทั้งโซนสำหรับเด็ก เช่น เอ็มจอย ศูนย์การเรียนรู้สู่อนาคต ของเยาวชนยุคดิจิทัล โรงเรียนสอนภาษา กีฬา ดนตรี รวม 30 โรงเรียน
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2566 จะเปิดบริการสนามเด็กเล่นในร่ม ฮาร์เบอร์แลนด์ รวมไปถึงยังมีร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งคนไทยและต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้เข้าไปใช้บริการจำนวนมาก
ส่วนดิ เอ็มโพเรียม จับกลุ่มลูกค้าลักชัว ที่เข้ามาซื้อสินค้าแบรนด์เนมเป็นหลัก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ใหม่ด้วยเงินลงทุน 2,000 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบเดือน ธันวาคม 2565 นี้
ปัจจุบัน ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มโพเรียม มีผู้มาใช้บริการรวมกันในวันธรรมดา 1 แสนคน และวันหยุด 1.5 แสนคน เมื่อรวมทั้ง 3 โครงการ ที่จะเปิดเต็มรูปแบบประมาณปลายปี 2566 จะส่งผลให้มีลูกค้ามาเดินในโครงการดิ เอ็มดิสทริคไม่ต่ำกว่า 2 แสนคนต่อวัน
นางสาวศุภลักษณ์ กล่าวว่า ดิ เอ็มดิสทริค จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ ในการยกระดับให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครต้นแบบ (ROLE MODLE METROPOLIS) ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวหน้าและทันสมัยด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างยั่งยืน และเป็นมหานครที่ไม่เคยหลับ
นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวว่า ดิ เอ็มสเฟียร์ จิ๊กซอว์ตัวล่าสุด ที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับ ดิ เอ็มดิสทริค ประกอบด้วยโซนต่าง ๆ ดังนี้
- EM GALLERIA โซนสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้า ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ไทยดีไซเนอร์ และแบรนด์เนมชั้นนำของไทย
- EM LIFESTYLE โซนที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
- EM MERCADO สวรรค์สำหรับนักชิม ศูนย์รวม International food market ที่หลากหลายจากทั่วโลก ร่วมด้วยร้านอาหารชั้นนำมากมาย
- EM WONDER แหล่งแฮงก์เอาต์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร สีสันของความบันเทิงที่เป็นที่สุดสำหรับชาวไทย และนักท่องเที่ยว
- EM INNOVATION แหล่งรวมนวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลก ให้สัมผัสครั้งแรกในเมืองไทย
- IKEA CITY STORE อิเกีย ซิตี้ สโตร์แห่งแรกของเมืองไทย และของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- EMLIVE ที่สุดแห่งความบันเทิงระดับโลกกับ World Class Arena ความจุ 6,000 ที่นั่ง โดยการบริหารงานของ AEG ผู้ประกอบธุรกิจบันเทิง และกีฬาระดับโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เดอะมอลล์-เซ็นทรัล โหมแคมเปญต้อนรับเทศกาลวันแม่แห่งชาติ กระตุ้นยอดขาย
- เดอะมอลล์ โหนกระแสคริปโตฯ ปั้น ‘Bitkub M’ ประเดิมรับ 7 เหรียญเงินดิจิทัล
- ‘ศุภลักษณ์’ ประกาศโรดแมพ 3 ปี เดอะมอลล์ สู่ ‘ดิจิทัลคอมเมิร์ซ’