CEO INSIGHT

เจาะกลยุทธ์การบริหารธุรกิจฝ่า ‘Digital Disruption’ ผ่านมุมมอง ‘ฐิภา นววัฒนทรัพย์’

เจาะกลยุทธ์การบริหารธุรกิจฝ่า “Digital Disruption” ผ่านมุมมอง “ฐิภา นววัฒนทรัพย์” ประธานกลุ่มวายแอลจีและผู้ก่อตั้ง วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทย

“ทองคำ” ถึงแม้จะเป็นสินทรัพย์ที่มีเสน่ห์ผ่านประวัติศาสตร์มากว่าห้าพันปีความนิยมก็ไม่เคยเสื่อมคลาย ประกายแห่งแสงสีทองของหินมีค่านี้ยังคงดึงดูดให้ผู้คนทั่วโลกอยากมีไว้ในครอบครอง แต่ความนิยมดังกล่าวดูเหมือนกำลังถูกท้าทายจากความก้าวหน้าของโลกดิจิทัล ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งในรูปแบบของเหรียญต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย จนกระทั่งโลกของเราได้รู้จักกับ “บิตคอยน์” สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกขนานนามว่า “ทองคำแห่งโลกดิจิทัล” และถึงแม้ว่าทองคำโลกดิจิทัลจะไม่สามารถจับต้องได้ ทว่าความนิยมกลับแพร่หลายออกไปอย่างน่าสนใจ จนเกิดคำถามจากมหาชนว่า ถึงเวลาแล้วที่ “บิตคอยน์” จะเข้ามาแทนที่ทองคำ

วายแอลจี

ความท้าทายนี้จึงถือเป็นโจทย์ใหญ่ของ ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานกลุ่มวายแอลจี ที่มีบริษัทภายใต้การบริหารทั้งหมดอีก 4 บริษัท ที่ครอบคลุมธุรกิจเกี่ยวกับทองคำครบวงจร

เส้นทางของกลุ่มบริษัทวายแอลจีนั้น มีจุดเริ่มต้นบริษัท ยูหลิมโกลด์ แฟคตอรี่ จํากัด (Yoo Lim Gold Factory Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับจากทองคําและเพชรพลอยแท้ ที่มีประสบการณ์การดําเนินธุรกิจส่งออกมากว่า 20 ปี จนมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างมากจากนานาประเทศทั่วโลก ดังนั้นคำว่า YLG จึงมีรากฐานมาจากคำว่า Yoo Lim Gold นั่นเอง

วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล

การผลิตเครื่องประดับเพื่อการส่งออกจำเป็นจะต้องนำเข้าวัตถุดิบสำคัญ นั่นก็คือ ทองคำ “ฐิภา” มองเห็นถึงช่องทางในการดำเนินธุรกิจซื้อ-ขายทองคำแท่ง จึงได้ก่อตั้งขึ้น บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด ในปี 2003 เพื่อนําเข้าและซื้อขายทองคําแท่งบริสุทธิ์ 99.99% มาตรฐาน LBMA (London Bullion Market Association) จนกระทั่งบริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

จากจุดเล็ก ๆ ในวันนั้น “ฐิภา” ได้พาวายแอลจีก้าวขึ้นมาผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยยอดขายมูลค่ากว่าแสนล้านบาทต่อปี และขยายธุรกิจจากที่มีเพียงบริษัทซื้อ-ขายทองคำแท่ง ด้วยการตั้งบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX YLG Bullion Singapore Pte. Ltd. เพื่อขยายธุรกิจค้าทองคำแท่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และวายแอลจี พรีเชียส จำกัด ดำเนินธุกิจซื้อขายทองคำแท่งและซื้อขายทองคำรูปพรรณ

ความสำเร็จในธุรกิจทองคำนั้นต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากตัวทองคำเองที่มีคุณค่าในหลายด้านที่ไม่ได้เพียงเป็นที่ต้องการเพราะเป็นแร่หายาก แต่ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในแง่ของการลงทุน ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตน (Tangible Asset) และไม่สามารถที่จะพิมพ์เพิ่มได้ซึ่งแตกต่างจากเงินตรา และด้วยเหตุนี้ทองคำจึงสามารถช่วยป้องกันอัตราเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของสกุลเงิน (currency devaluations)

ขณะที่ทองคำไม่เพียงแต่จะปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนสูงเท่านั้น แต่ราคาทองคำยังปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10% ต่อปีนับตั้งแต่ปี 1971 และผลตอบแทนระยะยาวของทองคำนั้นยังใกล้เคียงกับหุ้น และสูงกว่าพันธบัตรและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ทองคำสามารถซื้อ-ขายได้ตลอด 24 ชม.ทั่วโลกด้วยส่วนต่างราคาที่ต่ำ มีสภาพคล่องสูง ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญของสินทรัพย์ด้านการลงทุน

วายแอลจี

ตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ

แม้ “ทองคำยังเป็นตัวเลือกในด้านการลงทุนอันดับต้น ๆ” โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen X และ Gen B หรือคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีพฤติกรรมให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าในตัวเอง และสามารถจับต้องได้ ทำให้การลงทุนในทองคำ เป็นตัวเลือกอันดับ 1 และได้รับความนิยมมากกว่าการออมในรูปเงินฝากกับสถาบันการเงินอีกด้วย แต่คนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 22 ปี (Gen-Z) มีความสนใจการลงทุนทองคำลดลง

ทั้งนี้ ผลสำรวจจาก World Gold Council พบว่า คนรุ่นใหม่ GEN Z มีความต้องการผลตอบแทนที่รวดเร็ว และเปิดรับความเสี่ยงจากการลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีเงินลงทุนไม่มากนัก ดังนั้น กลุ่มคนรุ่นใหม่จึงนิยมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่มีความเคลื่อนไหวที่ผันผวนมากกว่าทองคำ โดยเฉพาะช่วงหลังบิตคอยน์ถูกจับตามองอย่างมากว่าจะมาแทนที่ทองคำเพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ YLG ไม่ได้มองว่าต้องดำเนินธุรกิจเพื่อแข่งขันกับสกุลเงินดิจิทัล แต่ YLG มองไปที่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงความท้าทายนี้ให้เป็นโอกาสในการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ สามารถเข้าถึงการลงทุนทองคำได้ง่ายขึ้นอย่างไร

เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ YLG จึงได้ออกแบบผลิตภัณ์และบริการใหม่ให้เข้าถึงง่ายมากขึ้น โดยใช้เงินลงทุนน้อยลง ด้วยการเปิดตัวโปรแกรมออมทอง YLG Gold Saving ที่ชูจุดเด่นใช้เงินลงทุนน้อยเริ่มต้นออมเพียง 100 บาท แถมออมทองคำได้ด้วยราคาแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เลือกได้ว่าสะสมทองคำไปจนครบจำนวนแล้วไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือขายทำกำไรโดยไม่มีกำหนดขั้นต่ำ ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ออมสามารถออกแบบโปรแกรมออมทอง ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการลงทุนทองคำของนักลงทุนรุ่นใหม่ได้ผ่านระบบ

และแม้ว่าสกุลเงินดิจิทัล เป็นหนึ่งในปัจจัย ๆ ใหม่ที่เริ่มส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปัจจุบัน โดยดึงเม็ดเงินเก็งกำไรออกไปจากตลาดทองคำ

วายแอลจี

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้

อย่างไรก็ดี YLG มองว่าทองคำยังมีข้อได้เปรียบอยู่หลายประการ อาทิ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ความผันผวนของทองคำ อยู่ในระดับต่ำกว่า “บิทคอยน์” ค่อนข้างมาก มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว ทองคำมีตลาดขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง โดยมี Market Cap สูงกว่าบิทคอยน์อยู่ราว 11 เท่า ที่สำคัญ คือ ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นต่อทองคำในสายตาของธนาคารกลางทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี YLG แนะนำนักลงทุนเสมอว่า นักลงทุนสามารถจัดการความเสี่ยงจาก “บิตคอยน์” ด้วยการลงทุน “ทอง” ควบคู่กัน โดยไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะลงทุนเพียงสินทรัพย์ใดเพียงสินทรัพย์ด้วย

ส่วนก้าวต่อไปของ YLG ที่จะมุ่งไปข้างหน้านั้น “ฐิภา” เล่าว่า มีความตั้งใจที่จะเป็น one-stop solution for gold trading and investment หรือจุดศูนย์รวมอย่างครบวงจรในด้านการซื้อขายและลงทุนในทองคำ และมีเป้าหมายให้การขยับจาก Market Challenger ขึ้นมาเป็น Market Leader ในอนาคต ซึ่งจะต้องเพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิม, สร้างยอดขายจากลูกค้าใหม่และดึงยอดขายจากลูกค้าคู่แข่ง

วายแอลจี

จ่อเข้าตลาดหลักทรัพย์

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ YLG เริ่มบุกตลาดต่างประเทศในปี 2012 ภายใต้ YLG Bullion Singapore Pte. Ltd. เพื่อขยายธุรกิจค้าทองคำแท่งในภูมิภาค ปัจจุบัน YLG ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ พม่า กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย เป็นอย่างดีด้วยเป้าหมายทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ YLG มีแผนการลงทุนทั้งในด้านของเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาระบบการซื้อขายและระบบสนับสนุนการปฏิบัติงาน (Back Office) ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับลงทุนในด้านทรัพยากรมนุษย์เพื่อพัฒนาทั้งในแง่ของ Hard Skills และ Soft Skills

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน YLG จะมีระบบการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่แล้ว แต่ YLG กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาระบบการซื้อ-ขายทองคำแท่งให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์ของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเตรียมจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ “ฐิภา” ยังทิ้งท้ายอีกว่า YLG มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ พร้อมทั้งฝากช่องทางสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจออมทองกับ YLG สามารถคลิก www.ylggoldsaving.com

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK