CEO INSIGHT

3 ทศวรรษ เอพี ไทยแลนด์ ชู 3 ยุทธศาสตร์ รับมือ ‘Ripple Effect’

เอพี ไทยแลนด์ 3 ทศวรรษ ชู 3 ยุทธศาสตร์ รับมือ นิวนอร์มอล-Ripple Effect ความท้าทายใหม่จากวิกฤติโควิด เดินหน้าเปิด 34 โครงการ ปีนี้

เอพี ไทยแลนด์ ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 30 พร้อมบทพิสูจน์ความแข็งแกร่ง ด้วยผลประกอบการปี 2563 ที่เติบโตสวนกระแสตลาด พร้อมก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ด้วย 3 ยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน พร้อมตั้งรับกับกฎกติกาโลก ที่เปลี่ยนแปลงไป จากวิกฤติโควิด-19

เอพี ไทยแลนด์

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า วันนี้ เอพี ไทยแลนด์ ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 30 โดยมี EMPOWER LIVING เป็นเจตจำนงสำคัญ ในการดำรงอยู่ของเอพี ไทยแลนด์จากอดีต ปัจจุบัน และก้าวต่อๆ ไปในอนาคต ภายใต้บทบาท การเป็นผู้สร้าง และจัดหาสินค้า หรือบริการ ที่เกื้อหนุนให้ลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเอพี สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดี ในแบบที่ต้องการด้วยตนเอง

วันนี้วิสัยทัศน์ EMPOWER LIVING ได้กลายมาเป็นพื้นฐานสู่ความแข็งแกร่งของบริษัทฯ โดยปี 2563 ที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งบทพิสูจน์ความเป็นตัวจริงในอุตสาหกรรมอสังหาฯ โดย เอพี มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ทั้งนี้ ผลประกอบการของ เอพี ในปี 2563 สามารถสร้างรายได้รวม จากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 46,130 ล้านบาท เติบโตกว่า 42% จากปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 4,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 38%

ทั้งหมดนี้ ล้วนสะท้อนถึงความสามารถใน การบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น

image profile th

“วิกฤติโควิด-19 เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของวิกฤติที่เกิดขึ้น และยังคงวนเวียนอยู่ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุด หรือจะมีวิกฤติใหม่เกิดขึ้นอีกเมื่อใด และความเสียหายจะรุนแรงแค่ไหน โจทย์การดำเนินธุรกิจจึงท้าทายยิ่งขึ้น และนำไปสู่รูปแบบใหม่ๆ ในการแข่งขัน”นายอนุพงษ์ กล่าว

ชู 3 ยุทธศาสตร์ รับความท้าทายใหม่

สภาพตลาดและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โมเดลการทำธุรกิจแบบเดิม จึงไม่ใช่คำตอบของการอยู่รอดในอนาคต ซึ่งก้าวต่อไปจากนี้ เอพี ไทยแลนด์ จะชู 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ดังนี้

1. สร้างผู้นำอิสระ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันที่มากกว่า องค์กรจึงจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นสูง ยิ่งในสภาวะที่ไม่ปกติ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากขึ้น บริษัทฯ จึงให้เดินหน้าสร้างบทบาทของผู้นำในโลกยุคใหม่ ให้เป็น “ผู้นำที่มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจ” ภายใต้กรอบความรับผิดชอบต่อตนเอง ลูกค้า คู่ค้า และเพื่อนร่วมงานดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นไปที่ ความต้องการของลูกค้า มากกว่า ข้อกำหนดของบริษัท หรือ ข้อจำกัดขององค์กร

image profile th

2. การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม การที่พนักงานเอพี ทุกคนจะสามารถสร้างและจัดหาสินค้า หรือบริการ ที่เกื้อหนุนให้ผู้คนในสังคม สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการด้วยตนเองนั้น สมาชิกทุกคนในองค์กร ไม่ว่าจะทำหน้าที่ในบทบาทใด หรือรับผิดชอบเรื่องใด จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เกิดขึ้น

บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับ การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม ผ่านการปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมีระบบคิดตามหลัก DESIGN THINKING ที่ให้ความสำคัญกับการค้นหา Unmet Need ของลูกค้า ให้เกิดขึ้นกับพนักงานเอพีทุกคน เพื่อใช้เป็นหลักคิดพื้นฐาน ผสานเข้ากับจุดแข็ง ในการร่วมมือเพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น

3. พลิกเกมส์ธุรกิจ เดินหน้าเต็มลูป ทรานฟอร์มทุกมิติด้วยดิจิทัล ด้วยการนำทุกมิติของการดำเนินงาน เข้าสู่ระบบดิจิทัลแบบองค์รวม ทั้งที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้า พาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกับเอพี หรือ พนักงาน เพื่อเป็นรากฐานสนับสนุน 2 ยุทธศาสตร์ข้างต้น

apthai

สำหรับ 3 ยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะเป็นพื้นฐานสำคัญ ในการสร้างความพร้อมให้กับองค์กร โดยเฉพาะธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีการขยายตัวเชิงรุกอย่างมาก

ลุยเปิด 34 โครงการ มูลค่า 43,000 ล้านบาท

ขณะที่แผนงานในปี 2564 นี้ เอพี ไทยแลนด์ จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่พัฒนาอยู่ทั่วประเทศมากถึง 147 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 121,890 ล้านบาท โดยเป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 34 โครงการ มูลค่าประมาณ 43,000 ล้านบาท

โครงการใหม่ในปีนี้ แบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 30 โครงการ มูลค่าประมาณ 28,800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดตัว ในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 14,200 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย ที่กระจายไปในทุกทำเลทั้งในกทม.และต่างจังหวัดมากถึง 113 โครงการ มูลค่าสินค้าพร้อมขายประมาณ 78,890 ล้านบาท

ในปี 2564 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ (รวม 100% JV) 43,100 ล้านบาท และเป้ายอดขายที่ 35,500 ล้านบาท

นายอนุพงษ์ กล่าวว่า การมาของวัคซีนคือ ความหวัง แต่หนทางระหว่าง ยังอีกยาวไกล สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดตอนนี้คือ “Ripple Effect” หรือปรากฏการณ์ระลอกคลื่น ที่ศูนย์กลาง คือ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ที่ส่งผลต่อเวลาในการฟื้นตัว ที่ต้องลากยาวออกไปอีกหลายปี

นอกจากนี้ ความน่ากลัวที่แฝงอยู่คือ วิธีการทุกอย่างที่เคยทำ และเรียนรู้มา จะเปลี่ยนไป และจะยังคงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นแปลว่า จากวันนี้ไปอีกหลายปี เรายังคงต้องเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติเปลี่ยนโลกรอบนี้

ดังนั้น หากพนักงานเครือเอพี กว่า 2,000 คน สามารถดำเนินงานภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์นี้ได้อย่างเข้าใจ เอพีก็จะสามารถสร้าง และจัดหาสินค้า หรือบริการ ที่เกื้อหนุนให้ลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ในแบบที่ต้องการด้วยตนเอง ตามเจตจำนง EMPOWER LIVING ที่ได้กำหนดไว้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo