แม่ศรีเรือน ก๋วยเตี๋ยวไก่ ร้านเล็กๆ ที่พัทยา สยายปีกสู่ 32 สาขา เดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 60 โหนกระแส New Normal ขยายธุรกิจรับเทรนด์สุขภาพ ก้าวข้ามวิกฤติ
ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน ถือเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ ที่มีชื่อเสียงและมีจำนวนสาขาค่อนข้างมาก ซึ่งต้องยอมรับว่า การสร้างแบรนด์และกลยุทธ์ธุรกิจ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในภาวะปัจจุบัน ที่ทุกธุรกิจล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น เป็นที่น่าจับตามองว่า ก้าวเดินของ ก๋วยเตี๋ยวไก่ แม่ศรีเรือน จะเดินต่อไปอย่างไร
ย้อนรอยร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ ระดับตำนาน 60 ปี
นายชาณ เรืองรุ่ง กรรมการบริหาร บริษัท ครัวแม่ศรีเรือน จำกัด, บริษัท แม่ศรีเรือนไทยฟู้ดส์ จำกัด และบริษัท แม่ศรีเรือนอินเตอร์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ย้อนให้ฟังถึงความเป็นมา ของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน ว่า แม่ศรีเรือนเริ่มจากธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เล็กๆ ทำกันในครอบครัวที่ พัทยากลาง
ต่อมาเมื่อร้านเริ่มเป็นที่กล่าวขวัญกัน ปากต่อปาก จากลูกค้าต่างจังหวัด จึงเป็นจุดเริ่มต้น การเปิดสาขาแรกของ ‘ก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน’ ที่กรุงเทพฯ ในปี 2521 จากนั้นร้านแม่ศรีเรือนก็พัฒนาตัวเอง และเติบโตขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด
จากแนวคิดที่ว่า “แม่ศรีเรือนจะเป็นสำรับกับข้าวที่สองของครอบครัวไทย” ทำให้ จากเมนูก๋วยเตี๋ยวไก่ต้นตำรับ เริ่มขยับขยายมาเป็นอาหารจานเดียว และอาหารไทย ที่มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมกับการเปิด “ครัวกลาง” เพื่อรักษามาตรฐานของวัตถุดิบ ให้มีคุณภาพใกล้เคียงกันในทุกจาน โดยเน้นเรื่องรสชาติและความปลอดภัยของผู้ทานเป็นสำคัญ
“ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่เปิดร้านมา ร้านแม่ศรีเรือน เจออุปสรรคมามากมาย แต่ในปีนี้ ที่ทุกคนต่างปรับวิถีการดำเนินชีวิต ในเรื่องการกินไปอย่างมาก ผู้คนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ ตัวเองและครอบครัว ทั้งยังเน้นถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวันด้วย จึงนำไปสู่ก้าวใหม่ ของแม่ศรีเรือน
ปัจจุบัน ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน มีสาขาที่กรุงเทพ และปริมณฑล 27 สาขา ที่พัทยา 4 สาขา และที่หัวหินอีก 1 สาขา รวมทั้งหมด 32 สาขา ด้วยจำนวนสาขาในการดูแลที่มาก จึงถือเป็นเรื่องของความท้าทาย ที่แม่ศรีเรือนต้องก้าวข้ามวิกฤติการแข่งขันที่รุนแรงไปให้ได้ ท่ามกลางโจทย์ทางธุรกิจที่มากมาย ทั้งในส่วนของรายได้และต้นทุนรอบด้าน
โหนกระแส New Normal รับเทรนด์สุขภาพ
จากวิกฤติโควิด-19 และกระแสการใส่ใจสุขภาพ ทำให้ ร้านแม่ศรีเรือน มองเห็นโอกาส ที่จะนำแก่นแท้ของของความเป็นแม่ศรีเรือน ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ และใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ให้ได้รสชาติอาหารอร่อยตำรับไทยแท้ที่ทุกคนคุ้นเคยและเข้าถึงได้ง่าย มาพัฒนาเข้ากับ “เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ”
นี่จึงเป็นที่มาของการร่วมมือกับ ศูนย์ธรรมชาติบำบัด เวลเนส แคร์ โดย นายแพทย์บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ ศูนย์ทางเลือกสุขภาพ ที่ใช้แนวทางวิถีทางธรรมชาติบำบัด พัฒนาเมนูอาหารทางเลือก เพื่อสุขภาพ ขึ้น ภายใต้ชื่อ “เมนู ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้ที่รักสุขภาพ
เมนูอาหาร “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” เป็นการวางทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพ จากร้านแม่ศรีเรือน โดยเริ่มพัฒนาและวางจำหน่ายที่ร้านแม่ศรีเรือน สาขาสุขาภิบาล3 เพื่อตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพ ในพื้นที่ใกล้เคียง ให้ใช้บริการได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และประหยัดเวลาในการเดินทาง ที่เดียวทานครบจบทุกสำรับเมนูอาหาร
สำหรับเมนู “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” จะให้ความสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบ เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค โดยการล้างผักผลไม้ ด้วยเครื่องล้างผักโอโซน และเลือกใช้วัตถุดิบจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ปรุงตามสูตร 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน, ข้าว 1 ส่วน และเนื้อ 1 ส่วน
นอกจากนี้ ยังเป็นเมนูอาหารที่ เพิ่มกากใย , ไม่ใส่ผงชูรส, ลดหวาน, ลดเค็ม, ลดมัน, งดแป้งขัดขาว, งดเนื้อแดง และแสดงปริมาณแคลอรี่ต่อจาน ให้คุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ จากเมนูที่มีความหลากหลาย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวไก่สุขภาพ, ข้าวกะเพราไก่, ข้าวผัดกุ้ง, ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ, ผัดไทยกุ้ง, ราดหน้าเส้นหมี่ข้าวกล้องไก่, ยำทูน่า, สลัดโรล และอื่นๆ อีกมากมาย
ขยายความอร่อยได้ที่บ้าน ด้วย น้ำแกงปรุงสำเร็จ
นอกเหนือจากเมนูอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ร้านแม่ศรีเรือนยังวางแนวคิดธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวเองให้เข้ากับการดำเนินงานในวิกฤติโควิด-19 ในรูปแบบ New Normal โดยที่ผ่านมา ร้านแม่ศรีเรือนได้ใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยในการปรุงอาหารเพื่อลูกค้ามาโดยตลอด
ตัวอย่างเช่น การวางมาตรฐาน 7 ขั้นตอนสำหรับพนักงาน ตามแนวทาง Social Distancing เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า, การให้บริการ Cashless เพิ่มช่องทางชำระเงินอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทั้งจากการโอนชำระผ่าน Banking Application, การชำระผ่าน QR Code และการชำระด้วยเครดิตการ์ด เป็นต้น
อีกทั้งในช่วงปลายปีนี้ แม่ศรีเรือนจะเพิ่มสินค้า 2 ตัวเลือกใหม่ อย่าง น้ำแกงปรุงสำเร็จ และ สำรับแม่ศรีเรือน เพื่อตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย “น้ำแกงปรุงสำเร็จ” เป็นการนำเอา Pain point ผู้บริโภคที่ไม่สามารถทำงานประจำได้เหมือนเคย ให้หันมาลงมือทำอาหารที่บ้าน (Home Cooking) ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำแกงส้ม, น้ำแกงเขียวหวาน, น้ำแกงพะแนง, น้ำแกงเลียง ฯลฯ
ในส่วนของ “สำรับแม่ศรีเรือน” เป็นเมนูในรูปแบบของปิ่นโต สำรับกับข้าวปรุงสดใหม่ ส่งถึงบ้านได้โดยตรง โดดเด่นด้วยแนวคิด “30 วันไม่ซ้ำเมนู” เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มวัยทำงาน ที่ไม่มีเวลาทำอาหาร ที่สำคัญยังเป็นทางเลือก ให้กับการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ รองรับการเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย (Aging Society) ได้เป็นอย่างดี
บททดสอบก้าวข้ามวิกฤติ
ในภาวะวิกฤติปัจจุบัน นายชาณกล่าวว่า ในอีกมุมยังมีข้อบวก คือ ธุรกิจร้านอาหาร ถือเป็นธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตได้อยู่แม้ไม่สูงมากนัก เพราะอาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็น อีกทั้งพฤติกรรมของคนไทย ที่เคยนิยมทานอาหารนอกบ้านในห้างสรรพสินค้า ก็เปลี่ยนไปเป็นการทานที่ร้าน Stand Alone หรือศูนย์การค้าขนาดเล็กแทน หรือแม้แต่การเลือกปรุงอาหารรับประทานกันเองที่บ้านเพิ่มขึ้น
แนวโน้มที่เติบโตเห็นได้ชัดของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ รวมถึงกลุ่มที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ความหลากหลาย ภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของ ร้านแม่ศรีเรือน ในการที่จะตอบรับกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างลงตัว
ดังนั้น การเดลิเวอรี่มื้ออาหารถึงบ้าน ด้วย “สำรับแม่ศรีเรือน” และการเปิดตัวเมนูทางเลือกใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ, น้ำแกงปรุงสำเร็จ หรือแม้แต่สำรับแม่ศรีเรือน จึงถือได้ว่า เป็นบททดสอบ ถึงการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับผู้บริโภคอย่างตรงจุด และจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ร้านแม่ศรีเรือนสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เราเที่ยวด้วยกัน – คนละครึ่ง หนุนธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัวดีขึ้น
- ร้านอาหารต้องรู้! ไกด์ไลน์คุม ‘ฟู้ดเดลิเวอรี่’ รอประกาศราชกิจจา บังคับใช้
- เจ้าสัวธนินท์ แนะกลยุทธ์ ‘ตัวเบา’ ฟื้นท่องเที่ยว ร้านอาหาร รับยุค ท่องเที่ยวปลอดภัย
