“สุวรรณภูมิ” เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองของ “บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.” นับตั้งแต่ปี 2549 โดยสนามบินแห่งนี้ถูกออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี แต่ปริมาณผู้โดยสารในปัจจุบันกลับพุ่งทะยานไปมากกว่า 60 ล้านคนต่อปี
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หุ้น ทอท. ก็ประกาศผลประกอบการทำลายสถิติกำไรสูงสุด (New High) 4 ปีซ้อน ระหว่างปี 2558-2561 ตามมาด้วยราคาหุ้นที่ร้อนแรงแบบไฟลุก
แม้หลายฝ่ายอาจมองว่า ทอท. กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มทั้งในสนามบินและในตลาดหุ้น แต่ในสายตาของ “นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กลับมองว่าการเติบโตแบบเดิมๆ ของ ทอท. ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
“นิตินัย” ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “The Bangkok Insight” ว่า S-Curve ลูกแรกของ ทอท. คือ “สุวรรณภูมิ” สนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจสายการบินราคาประหยัด (Low-Cost Airline) ช่วยผลักดันให้ S-Curve ลูกนี้เติบโตถึงจุดสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา
การ enjoy สมบัติเก่า มันจบลงแล้วมีสัญญาณที่ชัดเจนว่า S-Curve ลูกแรกอ่อนแรงลงตั้งแต่ปี 2561
แต่วันนี้ “การ enjoy สมบัติเก่า มันจบลงแล้ว” เพราะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่า S-Curve ลูกแรกอ่อนแรงลงตั้งแต่ปี 2561 วัดได้จากการเติบโตของผู้โดยสาร
ในปีงบประมาณ 2562 จำนวนผู้โดยสารของ ทอท. เติบโตเพียง 1.5% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศขยายตัว 4% ส่วนผู้โดยสารภายในประเทศติดลบ
ล่าสุดจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศและภายในประเทศมีสัดส่วนอย่างละ 50% แต่วันนี้ ทอท. มีผู้โดยสารชาวไทยเพียง 18% ของผู้โดยสารทั้งหมด หมายความว่าผู้โดยสารภายในประเทศส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชาวต่างชาติที่บินเข้ามาต่อเครื่องในประเทศไทย แสดงว่าการเดินทางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศของคนไทยกำลังจุดอิ่มตัว Low-Cost Airline ไม่ได้ช่วยให้เกิดการขยายตัวอีกต่อไป
การเดินทางระหว่างประเทศก็เจอปัจจัยลบหลายด้าน ตั้งแต่เหตุการณ์เรือล่มในจังหวัดภูเก็ต สงครามการค้า ฯลฯ ส่งผลให้ผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโตลดลง เหลือเพียง 4% และยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ถ้าหากมีการฟื้นตัวก็จะฟื้นตัวช้าๆ แบบตัว U ไม่ใช่รวดเร็วแบบกราฟตัว V อีกต่อไป
สนามบินสุวรรณภูมิวันนี้ ก็ยังมีพื้นที่รองรับผู้โดยสารและตารางการบินเท่าเดิม เพราะการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ต้องรอให้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (satellite) แล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563 ก่อน จึงมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น
“นิตินัย” ถึงกับเอ่ยปากว่า “ปีนี้เหนื่อยมาก” แค่ประคองกำไรให้ได้เท่าเดิมก็ยากแล้ว เดือนนี้ (กันยายน 2562) เป็นเดือนสุดท้ายในปีงบประมาณ 2562 ซึ่ง ทอท. ก็ว่ายน้ำเอามือแตะขอบสระแบบ “แทบขาดใจ” กำไรปริ่มๆ ต้องใช้วิธีตัดลดค่าใช้จ่ายช่วย
แต่ ทอท. ยังโชคดี เพราะผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ขยายตัว มีอัตราเรียกเก็บค่าบริการสนามบิน (PSC) อยู่ที่ 700 บาทต่อคน สูงกว่า PSC ของผู้โดยสารภายในประเทศซึ่งอยู่ที่ 100 บาทต่อคน จึงช่วยต่อลมหายใจ ทอท. ต่อไปได้
“สายการบินโลว์คอสต์ หรือไม่โลว์คอสต์ ก็แย่กันหมดแล้ว นี่คือ ต้นน้ำ ปลายน้ำ โรงแรมก็แย่กันหมด ทอท. อยู่กลางน้ำ ระหว่างต้นน้ำและปลายน้ำที่ธุรกิจแย่ไปแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ไปแตะขอบฝั่งได้อย่างเกือบตาย ซึ่งทันกับการมาของ S-Curve ลูกที่ 2 พอดี”
สำหรับ S-Curve คลื่นที่ 2 ของ ทอท. จะเป็นอย่างไร… ติดตามได้ในตอนต่อไป
