นับจากการประกาศเปิดตัว “ไอคอนสยาม” โครงการแลนด์มาร์คระดับโลกในกรุงเทพฯ บนที่ดิน 55 ไร่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดช่วง 5 ปีของการก่อสร้างกระทั่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2560 ได้กระตุ้นให้เกิดการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น
มร.แอนดรูว์ กัลแบรนด์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา เจแอลแอล ประเทศไทย กล่าวว่าในช่วงระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่การประกาศพัฒนาโครงการไอคอนสยาม พัฒนาการของชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ ได้เริ่มต้นขึ้น เกิดการเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเมืองเข้าด้วยกันกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นศูนย์กลาง
“ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างทีมงานของไอคอนสยามและภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อพัฒนาการสัญจรและการเข้าถึงพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ นับเป็นแบบอย่างที่ดีของโครงการภายใต้การนำของภาคเอกชน สร้างสาธารณะประโยชน์ที่สำคัญ”
ตัวอย่างหนึ่งคือ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีห้องพักอาศัยของโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จมากกว่า 7,000 ยูนิต ตลอดทั้งพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ และยังมีอีกกว่า 4,000 ยูนิตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ จึงช่วยสร้างงานและสร้างอุปสงค์ใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจรายย่อยในพื้นที่
นอกจากนี้การสร้างสรรค์ Attraction และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของไอคอนสยาม ได้สร้างความแข็งแกร่งให้แก่สถานะความเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของไอคอนสยาม ซึ่งมุ่งดึงดูดผู้มาเยี่ยมเยือนนับล้านๆ คนจากทั่วโลกในแต่ละปี
นอกจากไอคอนสยามจะช่วยสร้างงานประจำให้ผู้คนจำนวนหลายพันแล้ว ยังสร้างโอกาสให้เกิดการใช้จ่ายเงินของผู้ที่มาเยือนเป็นมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปีในกรุงเทพฯ ซึ่งจะกระจายรายได้ออกไปในวงกว้างไปถึงธุรกิจชุมชนที่อยู่ถัดออกไปจากพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ICONSIAM