Properties

ส่อง ‘ท็อป 10 อสังหาฯ 61’ ซีพีเอ็นนำสินทรัพย์กว่า 1.6 แสนล้าน

ปี 2561 กำลังจะผ่านพ้นไป ศักราชใหม่ 2562 ปีหมูทอง กำลังจะมาเยือนหลายคนประเมินว่า ธุรกิจอสังหาฯ ปี 2561 เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี แม้ช่วงปลายปีจะมีอุปสรรคมาให้กังวล แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่าเติบโตได้ดี หากดูจากยอดเปิดโครงการ ตามแผนงานที่ประกาศไว้ ซึ่งจะมีมูลค่ากว่า 3.69 แสนล้านบาท จากการเปิดตัว 284 โครงการ มาจาก 10 บริษัทอสังหาฯผู้นำตลาดที่ประกาศแผนลงทุนไว้ตั้งแต่ ต้นปี 2561

ผ่านมาถึงไตรมาสสุดท้ายของปี หลายบริษัทสามารถเปิดโครงการได้ตามแผนงาน ในขณะที่อีกหลายบริษัทได้ปรับแผนไปเล็กน้อยตามสภาวะตลาด The Bangkok Insight ได้ติดความความเคลื่อนไหวของบริษัทอสังหาฯผู้นำตลาด  และได้รวมรวมข้อมูลอัพเดท สำหรับ “ท้อป 10 บริษัทอสังหาฯในปี 2561” ซึ่งโชว์ผลประกอบการล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 โดยภาพรวมสรุปได้ดังนี้

top 5 RE

ซีพีเอ็นนำแชมป์ทรัพย์สิน-กำไรสูงสุด

อันดับหนึ่ง บริษัทอสังหาฯ ที่ถือครองสินทรัพย์มูลค่าสูงสุด คือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น CPN โดยมีสินทรัพย์รวม  160,436 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 84,962 ล้านบาท มีรายได้รวม 27,976 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8,685 ล้านบาท ถือเป็นผู้นำตลาดที่มีสินทรัพย์ หนี้สิน และกำไรสุทธิ มากที่สุดในกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ซีพีเอ็น เป็นบริษัทผู้พัฒนาศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล ซึ่งปีที่ผ่านมานอกจากแผนขยายศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในทำเลต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศแล้ว ซีพีเอ็น ยังได้เข้าเทคโอเวอร์ บมจ.จีแลนด์ เพิ่มเข้ามา แต่ยังไม่ได้โอนรวมอยู่ในพอร์ตของ ซีพีเอ็น

ในส่วนของจีแลนด์ มีสินทรัพย์รวม 29,193 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 17,065 ล้านบาท มีรายได้รวม 1,462 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท ซึ่งหากนำมารวมกับพอร์ตของซีพีเอ็น จะยิ่งตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ชัดเจนยิ่งขึ้น

อันดับสอง เป็นบริษัทอสังหาฯที่ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ศูนย์การค้า และพื้นที่เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ คือ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH มีสถานะเป็นผู้นำตลาดมาโดยตลอด ถือครองสินทรัพย์รวมกว่า 107,705 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 58,629 ล้านบาท มีรายได้รวมกว่า 29,802 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิกว่า 8,204 ล้านบาท ถือว่ามีกำไรสุทธิสูงที่สุด ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทสร้างเพื่อขาย โดยเป็นรองเพียง ซีพีเอ็นเท่านั้น แต่ซีพีเอ็นไม่ได้ทำธุรกิจอสังหาฯแบบพัฒนาเพื่อขายในกลุ่มที่อยู่อาศัย เน้นโครงการด้านศูนย์การค้าเป็นหลัก

อันดับสาม เป็นบริษัทอสังหาฯที่เปิดโครงการมากที่สุดรายหนึ่ง ตลอดทั้งปี 2561 มีกิจกรรมเปิดตัวโครงการ กิจกรรมส่งเสริมการขายออกมามากที่สุด คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 แสนสิริ มีสินทรัพย์รวมกว่า 91,919 ล้านบาท แต่หนี้สินก็สูงไม่น้อยด้วยยอดหนี้สินรวมกว่า 62,082 ล้านบาท มีรายได้รวมอยู่ในระดับปานกลางคือ 17,953 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ ในระดับกลางเช่นเดียวกัน ที่ยอด 1,002 ล้านบาท

สำหรับบริษัทแสนสิริแล้ว นอกจากกิจกรรมเปิดตัวโครงการใหม่ ยังถือว่าเป็นบริษัทอสังหาฯที่เปิดพันธมิตรเชิงนวัตกรรม มากที่สุดในตลาด มีการเข้าไปร่วมทุนกับกลุ่มสตาร์ทอัพทั่วโลก ที่ให้บริการเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่อาศัย นำระบบบริการเพื่อการอยู่อาศัยที่ทันสมัย เข้ามาให้บริการในโครงการต่างๆ จนได้ชื่อว่าเป็นบริษัทผู้นำนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยแห่งปี 2561

ทองมา พฤกษา
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้ก่อตั้ง บมจ.พฤกษา โอลดิ้ง

อันดับสี่ทรัพย์สินแต่อันดับหนึ่งรายได้

อันดับสี่ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH แม้จะมีทรัพย์สินอยู่ในอันดับสี่ แต่หากดูที่รายได้รวม ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 พฤกษาฯถือว่านำมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยยอดรายได้รวมสูงที่สุด คือ 30,575 ล้านบาท แต่มีสินทรัพย์รวม 80,309 ล้านบาท  และมีหนี้สินรวม 40,486 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิมีกว่า 4,016 ล้านบาท ถือว่าทำกำไรได้เป็นอันดับ 3 ของตลาดอสังหาฯ

ปีนี้พฤกษาฯ เป็นอีกบริษัทที่มีกิจกรรมเปิดตัวโครงการใหม่ และเปิดขายโครงการใหม่ออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี เน้นผลิตโครงการที่อยู่อาศัย ครอบคลุมทุกตลาด ทั้งแนวราบ-แนวสูง ระดับล่าง ระดับกลาง และระดับบน ภายใน 14 แบรนด์โครงการ

อันดับห้า  บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BLAND ต้องบอกว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกราย ที่พักการลงทุนด้านที่อยู่อาศัย หันไปขยายธุรกิจด้านศูนย์แสดงสินค้า และโรงแรม ครองอันดับห้า ด้านการมีสินทรัพย์รวมกว่า 61,789 ล้านบาท และหนี้สินรวมกว่า 8,792 ล้านบาท มีรายได้รวมกว่า 4,109 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 326 ล้านบาท

โครงการของบางกอกแลนด์ เป็นที่รู้จักกันดี คือ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ เมืองทองธานี อิมแพค และชาเลนเจอร์ โดยมีอาณาจักรใหญ่ บนที่ดินกว่า 4,000 ไร่ ที่โครงการเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ปัจจุบันไม่ได้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายแล้ว มีเพียงศูนย์นิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า และโรงแรม

อันดับหก เป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเป็นหลัก มีทั้งแนวราบและแนวสูง สำหรับบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสินทรัพย์รวมกว่า 56,928 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 24,866 ล้านบาท มีรายได้รวม 17,142 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิกว่า 3,331 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางค่อนข้างใหญ่

ในปีที่ผ่านมา ผู้บริหารของศูภาลัย นายประทีป ตั้งมติธรรม ยังได้ขยายเข้าไปซื้อหุ้น ในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเครือญาติคือ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) โดยเข้าไปซื้อหุ้นกว่า 4,000 ล้านบาท เตรียมขยายพอร์ตอสังหาฯ ไปในทิศทางเดียวกัน

พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค ร่วมทุน เซกิซุย ภาพที่ 2
พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค ร่วมทุนเซกิซุย จากญี่ปุ่น

อันดับเจ็ด ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ดูจากการการถือครองสินทรัพย์ คือ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF มีสินทรัพย์รวม 54,599 ล้านบาท หนี้สินรวม 38,991 ล้านบาท มีรายได้รวมกว่า 14,437 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า  518 ล้านบาท

ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง ที่ยังคงรักษาระดับการลงทุนแต่ละปีใกล้เคียงกัน โดยปีที่ผ่านมา มีทั้งการลงทุนโดยบริษัทเอง และการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ ในการพัฒนาโครงการใหม่ แต่ผลประกอบการที่ออกมา ในด้านกำไรถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ และรายได้ที่ทำได้เป็นอันดับหกของตลาด

อันดับแปด เป็นอีกบริษัทที่มีผลประกอบการดี คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP มีสินทรัพย์รวม 49,018 ล้านบาท หนี้สินรวม 25,591 ล้านบาท รายได้รวมค่อนข้างดีที่ 19,981 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,908 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง ที่ยังคงสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการเปิดโครงการใหม่ที่ในระยะหลัง หันมาเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ทำเลใจกลางเมือง และรอยต่อเส้นทางคมนาคม เป็นหลัก มียอดขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง

branded17 1
ภาพรวมคอนโดกรุงเทพฯ ยังคงแข่งขันรุนแรง

คอนโดแข่งดุสต็อกพร้อมโอนพรึ่บ

อันดับเก้า ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เจ้าพ่อคอนโดแนวรถไฟฟ้า” สำหรับ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เพราะเน้นสินค้าหลัก คือ โครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ทั้งทำเลใจกลางเมือง และเส้นทางรถไฟฟ้า ทั้งสายดั้งเดิมและสายใหม่ มีสินทรัพย์รวม  40,124 ล้านบาท หนี้สินรวม  23,243 ล้านบาท รายได้รวม 9,398 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,708 ล้านบาท

เป็นอีกบริษัทที่รุกแคมเปญการตลาดค่อนข้างแรงตลอดทั้งปี เนื่องจากมีสินค้าคอนโดพร้อมโอนในมือมากพอสมควร กิจกรรมการตลาดส่วนใหญ่ จึงเน้นเพื่อส่งเสริมการขายคอนโดพร้อมโอน เป็นหลัก

แคมเปญดุ เสียศูนย์-ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ซื้อคอนโดไม่ต้องเสียเงินสักบาท แถมโครงการให้อยู่ฟรี 2 ปี

อันดับสิบ ต้องบอกว่าเป็นบริษัทอสังหาฯน้องใหม่มาแรง สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เพราะขยายการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม ในทำเลต่างตามแนวรถไฟฟ้า ทั้งในเมืองและรอยต่อเมืองรอบทิศทาง พร้อมกิจกรรมการจตลาคค่อนข้างแรง ในการขายโครงการคอนโดพร้อมโอน

การเติบโตของออริจิ้นถือว่าเดินทางมาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่ปีมีสินทรัพย์รวม 26,745 ล้านบาท หนี้สินรวม 18,326 ล้านบาท รายได้รวม 10,692 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 2,399 ล้านบาท มีแบรนด์ที่รู้จักในตลาดหลายแบรนด์ ทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรร

การเติบโตของออริจิ้น สามารถแซงหน้าอดีตเจ้าพ่อคอนโด อย่าง บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN มาได้อย่างเฉียดฉิว ทำให้ แอลพีเอ็นลงไปอยู่ในอันดับที่สิบเอ็ดของกลุ่มอสังหาฯ เนื่องจากมีสินทรัพย์รวม  22,219 ล้านบาท หนี้สินรวม  9,771 ล้านบาท รายได้รวม 7,107 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 839 ล้านบาท ถือเป็นปีที่มีกำไรน้อยมาก เนื่องจากตลาดคอนโดระดับกลาง ติดปัญหากำลังซื้อไม่ดี

ทั้งหมดนี้คือ ก้าวย่างการเติบโตของบริษัทอสังหาฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่รวบรวมข้อมู ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 ซึ่งสามารถเทียบเคียงเป็นผลประกอบการปี 2561 จะเห็นว่ามีผู้ประกอบการหลายรายปรับตัว แต่ 10 อันดับแรกในตลาดยังคงเป็นหน้าเดิมๆ บิ๊กเนมรายเก่าที่ครองตลาดอสังหาฯ รวมกันเกินกว่า 80% ตามการสำรวจของบริษัทวิจัยตลาด และเชื่อว่าสัดส่วนตลาด จะยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

Avatar photo