หลังจากเปิดขายเฟสแรกไปเมื่อต้นปี ล่าสุดเตรียมจัดงานเปิดขายเฟสสอง ในวันที่ 10-11 พฤศจิกายนนี้สำหรับโครงการ “เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61” โดยเฟสสองใช้ชื่อว่า “เดอะ รีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์” ซึ่งเป็นคอนโดพรีเมียม ของ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เจาะทำเลที่ดินแปลงสวยท้ายซอยสุขุมวิท 61 มาพัฒนาเป็นคอนโดหรู แบบโลว์ไรส์ ความสููง 7 ชั้น
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในย่านสุขุมวิท ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงมาก เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นแหล่งงานที่มีศักยภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว
ด้วยความพร้อมดังกล่าว พฤกษาฯจึงเดินหน้าการพัฒนาที่ดินในซอยสุขุทวิท 61 ขึ้นเป็นคอนโดมิเนียมเกรดพรีเมียม เฟส 2 ต่อเนื่องจากโครงการ “เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61” โครงการแรกที่ขายปิดโครงการ จำนวน 186 ยูนิต ไปอย่างรวดเร็ว และมีลิสต์ลูกค้าที่รอซื้อโครงการในทำเลดังกล่าว จึงได้นำที่ดิน 3 ไร่ครึ่งในบริเวณเดียวกันมาพัฒนาเป็นโครงการ “เดอะ รีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์” ซึ่งจะเป็นคอนโด 7 ชั้น 2 อาคาร จำนวนทั้งสิ้น 164 ยูนิต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เปิดขายในราคา 2.6 แสนบาท/ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท สูงสุด 60 ล้านบาทเป็นเพนท์เฮ้าส์ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 206-228 ตร.ม.
“โครงการนี้ยังไม่เปิดตัวมีลูกค้ากลุ่มไฮเน็ตเวิร์คจองไปแล้ว 60% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวใหญ่ทำเลทองหล่อ เอกมัย และสุขุมวิท 61 ที่เป็นฐานลูกค้าเก่าจากเฟสแรก” นายประเสริฐ กล่าวและว่า ด้วยความเฉพาะของทำเลซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่ในทำเลนี้ ถือว่าเป็นตลาดเฉพาะที่มีดีมานด์รออยู่แล้ว แต่มีจำนวนจำกัด
ทั้งนี้ จะเห็นว่าบริษัทพัฒนาโครงการออกมาไม่มากนัก เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มนี้ และคาดว่าในวันเปิดขายอย่างเป็นทางการ งาน Open House วันที่ 10-11 พฤศจิกายนนี้น่าจะทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 70%
อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ กล่าวว่าตลาดคอนโดระดับพรีเมียม เป็นตลาดที่มีดีมานด์เฉพาะกลุ่ม ซึ่งการทำตลาดคอนโดหรูนับจากนี้ไปจะทำได้ยากขึ้น เพราะสินค้าตลาดบนมีเปิดตัวค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ซัพพลายในตลาดมีค่อนข้างมาก และการแข่งขันสูง
การที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ดีมานด์เฉพาะกลุ่ม ต้องหาให้เจอว่ามีความต้องการเฉพาะอยู่ทำเลไหน จึงเข้าไปพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ตลาด เพราะไม่ใช่ว่าเป็นทำเลสุขุมวิทแล้วจะขายดีเสมอไป
ปีหน้าการทำตลาดคอนโดหรูจะยากขึ้น การแข่งขันสูง ต้องมองหาทำเลที่มีดีมานด์เฉพาะกลุ่ม
ผู้บริหารพฤกษาฯ ยังกล่าวด้วยว่าตลาดคอนโดมิเนียมปีนี้มีสินค้าเปิดตัวประมาณ 2.8 แสนล้านบาทในจำนวนนี้เป็นสินค้ากลุ่มพรีเมียมราว 40% ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควร กำลังซื้อตลาดได้ทยอยดูดซัปไปมากแล้ว จะเหลือก็เพียงตลาดเฉพาะกลุ่ม ที่ผู้ประกอบการต้องหาให้เจอ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ง่ายนัก
นางอรนุช อิติโกศิน กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพรีเมียมแนวสูง พฤกษาฯ กล่าวว่า โครงการ “เดอะรีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์” ถูกออกแบบมาให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เป็นเหมือนรีสอร์ทกลางธรรมชาติ เหมือนพักอยู่ในบ้านตากอากาศส่วนตัว และออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเป็นพิเศษด้วย Hideaway Garden ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ให้ความเป็นส่วนตัว มีการออกแบบ Pocket Seat แยกไว้ มี Panoramic Lobby, The Reserve Lounge, Fitness Suite, Wellness Retreat & Onsen, Private Salon & Spa เป็นจุดขายที่มากกว่าคอนโดทั่วไป
เตรียมอีก 2 ทำเลใหม่ริมแม่น้ำ-ทองหล่อ
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับพฤกษาฯพรีเมียมที่ผ่านมา 10 เดือน เปิดคอนโดพรีเมียมไปแล้ว 7 โครงการ มูลค่าเปิดตัวอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท สามารถทำยอดขายไปได้แล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีโครงการนี้ “เดอะ รีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์” ที่เปิดตัวล่าสุดมูลค่า 2,700 ล้านบาท
ก่อนสิ้นปีอาจเปิดอีก 1-2 โครงการ โดยยังรอดูภาวะตลาด ซึ่งบริษัทมีที่ดินทำเลน่าสนใจอีก 2 แปลง คือที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเจริญนคร ใกล้กับโครงการไอคอนสยาม และมีรถไฟฟ้าสายสีทองวิ่งผ่าน จะเป็นทำเลทองอีกแห่งที่มีดีมานด์เฉพาะ มีจุดขายที่ชัดเจน อาจจะพัฒนาเป็นคอนโดแบบโลวไรส์ แต่ยังไม่ได้สรุปแผนงาน
ส่วนที่ดินอีกแปลง อยู่ที่ถนนทองหล่อซอย 25 คาดว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดแบบโลว์ไรส์เช่นเดียวกัน มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนา อาจเปิดตัวช่วงสิ้นปีนี้
นายประเสริฐ กล่าวว่า แผนดำเนินธุรกิจกลุ่มพรีเมียมของพฤกษา นับจากนี้ไปคงเล่นกับดีมานด์เฉพาะกลุ่ม หาทำเลที่มีดีมานด์เฉพาะไปเรื่อยๆ เพราะสินค้าราคาแพงต้องหาลูกค้าให้เจอก่อนลงมือพัฒนา เนื่องจากไม่ใช่สินค้าราคาตลาดทั่วไป ที่เปิดแบบแมสได้
ปี’62 อสังหาฯปรับใหญ่เจาะทำเลเฉพาะ
“ปีหน้าจะเห็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของผู้ประกอบการ เพราะตลาดเปลี่ยน ใครที่ทำสินค้าราคาแพงต้องทำการบ้านมากขึ้น ต้องหาดีมานด์ให้เจอไม่เช่นนั้นลำบาก” นายประเสริฐ ย้ำและว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯปี 2561 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 4.8 แสนล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบ 46% อีก 54% เป็นแนวสูง
สำหรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาการเปิดตัวติดลบไป 1% แต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมาการเปิดตัวโครงการใหม่เยอะมาก คาดว่าทั้งปีนี้น่าจะเปิดขายใหม่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือ 4.3 แสนล้านบาท
ส่วนภาพรวมอสังหาฯปี 2562 ด้วยปัจจัยหลายอย่าง คาดว่าการเติบโตของตลาดน่าจะอยู่ที่ 5% ถือว่าเติบโตตามปกติ เพราะก่อนหน้านี้การเปิดตัวเป็นนิวไฮ สูงสุดต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว ปีหน้าน่าจะลดความร้อนแรงลงเพราะมีหลายปัจจัย เช่น ตลาดต่างชาติที่เข้ามาเยอะในปีนี้ ปีหน้าอาจไม่เห็นโดยเฉพาะลูกค้าจีนน่าจะชะลอตัวลง และยังมีมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมากำกับดูแลเรื่องสินเชื่อ ก็อาจมีส่วนทำให้ตลาดเติบโตได้น้อยลง
