หลายคนอยากรู้ว่าห้องชุดพักอาศัยย่านสุขุมวิท-พระรามที่ 4 ที่มีการเปิดตัวกันอย่างคึกคักนั้น ล้นตลาดหรือยัง โดยเฉพาะกลุ่มราคาใดที่น่ากลัวที่สุด สินค้ากลุ่มใดขายได้ กลุ่มใดขายไม่ได้ และต้องใช้เวลาเคลียร์สต็อกอีกนานเพียงใด
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) วิใเคราะห์ผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่าในย่าน สุขุมวิทตั้งแต่ซอย 1-71 ซึ่งรวมถึง ถ.พระรามที่ 4 ในพื้นที่เขตวัฒนาและเขตคลองเตยนั้น ภาวะตลาดยังไม่น่าเป็นห่วง
บ้านแพงขายดีซัพพลายยังน้อย
ในกรณีบ้านเดี่ยว ปรากฏว่า ณ กลางปี 2561 ไม่มีบ้านเดี่ยวขายได้แล้ว 3 หลังสุดท้ายที่ขายได้ในย่านสุขุมวิทนี้ขายในราคายูนิตละ 44.32 ล้านบาท
บ้านแฝดก็มีขายได้ 4 ยูนิตในครึ่งแรกของปี 2561 รวมมูลค่า 243 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินยูนิตละถึง 60.75 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามก็ยังมีเหลือขายอยู่อีก 24 ยูนิต รวมมูลค่า 1,733 ล้านบาท ซึ่งบ้านกลุ่มนี้ขายได้ “อืด” กว่าบ้านประเภทอื่นๆ ในทำเลสุขุมวิท-พระรามที่ 4
ในทำเลนี้ ไม่มีการขายทาวน์เฮาส์เลยในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 แต่ก็ยังมีทาวน์เฮาส์อีก 2 ยูนิตรอขายอยู่ รวมมูลค่า 93 ล้านบาท แต่ไม่น่าจะขายได้ในขณะนี้ แต่โดยที่อุปทานมีเหลือแค่ 2 ยูนิต จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับตลาด
กลุ่มที่น่าสนใจที่สุดก็คือห้องชุดพักอาศัย ปรากฏว่าในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2561 สินค้าที่ขายได้ดีที่สุดก็คือ ห้องชุดราคา 10-20 ล้านบาท โดยในครึ่งแรกของปี 2561 ขายได้ถึง 399 ยูนิต รวมมูลค่า 5,547 ล้านบาท หรือเฉลี่ยยูนิตละ 13.9 ล้านบาท และยังเหลือขายอีก 735 ยูนิต ซึ่งคาดว่าภายในเวลาเพียง 11 เดือน หากไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ห้องชุดกลุ่มนี้ก็จะขายหมด
ห้องชุดราคา 5-10 ล้านบาท ก็ขายได้ดีมาก โดยในครึ่งแรกของปี 2561 ขายได้ถึง 737 ยูนิต รวมมูลค่า 5,455 ล้านบาท แต่ก็ยังมีเหลืออยู่ในตลาด 2,123 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกราว 17 เดือน ซึ่งไม่มากนัก ก็จะหมด
คอนโด 3-5 ล้านส่อล้นตลาดฝืด
กลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างต่ำในทำเลที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ปรากฏว่าในครึ่งแรกของปี 2561 ขายได้ 104 ยูนิต แต่ยังเหลืออีก 449 ยูนิต แสดงว่าต้องขายอีก 26 เดือนหรือ 2 ปี จึงจะหมด นี่จึงถือว่าน่าเป็นห่วง ห้องชุดกลุ่มนี้อาจมีขนาดเล็ก โครงการมีทำเลไม่ดี หรือขาดสิ่งอำนวยความสะดวก ปล่อยเช่าได้ยาก จึงทำให้ขายได้ช้า
อย่างไรก็ตามห้องชุดราคาเกิน 20 ล้านบาท จำนวน 514 ยูนิตที่ยังเหลืออยู่ ก็ต้องใช้เวลาขายอีก 27 เดือน แต่ก็เป็นธรรมชาติสำหรับสินค้าราคาสูงเหล่านี้ที่ต้องใช้เวลาในการขายนานเป็นพิเศษ จึงไม่น่าหนักใจเท่ากลุ่มห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท
โดยสรุปแล้ว สินค้าราคาแพงในทำเล สุขุมวิท-พระรามที่ 4 จึงน่าจะยังไปได้ด้วยดี ยังมีกำลังซื้อ ซึ่งคาดว่าจะเป็นต่างชาติเป็นจำนวนมก จึงยังขายได้ดีกว่าสินค้าราคาระดับราคาที่ต่ำกว่านั่นเอง
