คนจีนเป็นลูกค้าสำคัญไม่เฉพาะด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มทุนจีนและลูกค้าจีน ก็เป็นตลาดสำคัญด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาทุนจีนบุกเข้ามาในธุรกิจพัฒนาอสังหาฯของไทยหลายโครงการ มีทั้งเข้ามาพัฒนาโครงการเอง และรุกเข้ามาซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว
ตัวอย่างที่ชัดเจนกรณี “จีแลนด์”หรือบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการ แกรนด์ พระราม 9 สแควร์ ซึ่งพัฒนาพื้นที่ 70 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนพระราม 9 แยกถนนรัชดาฯ ที่ผ่านมาสามารถขายคอนโดฯ แบบเหมาตึกในโครงการเบลล์พาร์ค จำนวน 80 ห้อง ให้กับสถานทูตสาธาณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และยังมีดีลต่อเนื่องการซื้อยกตึกอีก 140 ห้องให้กับลูกค้าชาวจีน
ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯไทยรายอื่นๆ ที่มีคอนโดฯ ในทำเลถนนพระราม9-รัชดาฯ ได้รับอานิสงก์ลูกค้าจีน เข้ามาซื้อโครงการด้วยเช่นกัน ทั้ง ศุภาลัย, อนันดา, แสนสิริ ซึ่งต่อมาได้เดินทางไปเปิดขายคอนโดฯเมืองไทย ถึงแผ่นดินจีนและเปิดสำนักงานขายที่ฮ่องกง เพื่อดึงดูดนักลงทุนจีนโดยเฉพาะ
“ทีซี ดีเวลอปเมนท์” ปักหลักพระราม 9
การเข้ามาของทุนจีนในประเทศไทย มีต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่คึกคักมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ความสนใจในอสังหาริมทรัพย์ไทยของลูกค้าชาวจีนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้งไทยและจีน เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ ออกมารองรับตลาด
ตัวอย่างการเข้ามาของทุนจีนรายแรกๆ คือกลุ่มบริษัทเทียนเฉิน ล่าสุดได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ทีซี ดีเวลอปเมนท์ จำกัด พร้อมปรับภาพลักษณ์เป็นแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ ด้วยคอนเซ็ปท์ Luxury Life Curator
นายวรายุ โลกวิทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ดีเวลอปเมนท์ จำกัด กล่าวกับ Thebangkok Insight ว่า“เทียนเฉิน” เข้ามาลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาฯในไทยมาตั้งแต่ปี 2552 และเริ่มพัฒนาอสังหาฯโครงการแรกคือ “ทีซี กรีน” เมือปี 2555 เป็นการพัฒนาที่ดิน 16 ไร่ ริมถนนพระราม 9 ขึ้นเป็นคอนโดฯ 4 อาคาร จำนวน 1,900 ยูนิต ขายปิดโครงการไปหมดแล้ว
เปิดโครงการ One 9 Five 1.1หมื่นล้าน
ล่าสุดบริษัทเทียนเฉิน ต้องการปรับภาพลักษณ์บริษัท ให้เป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์มากขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อจาก “เทียนเฉิน” มาเป็น “ทีซี ดีเวลอปเมนท์” และปรับการออกแบบโครงการ One 9 Five ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่ดิน 11 ไร่ บนถนนพระราม 9 ฝั่งเหนือขึ้นเป็นอาคารชุดพักอาศัย ความสูง 61 ชั้น 2 อาคาร มูลค่าโครงการ 1.1 หมื่นล้านบาท ให้มีภาพลักษณ์ที่โมเดิร์นมากขึ้น ให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
โครงการนี้ประกอบด้วยห้องชุด อาคารเอ 954 ยูนิต อาคารบี 957 ยูนิต ร้านค้า 24 ร้านในบริเวณชั้นล่างของอาคาร และมีจุดเด่นเรื่องพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบเป็นสวนบนเนินเขาจำลอง Sky Hill บนชั้น 8 ของอาคาร พื้นที่กว้างถึง 8.6 ไร่ ตอบโจทย์การพัฒนาพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ
โครงการ One 9 Five เปิดตัวสู่ตลาดด้วยการเปิดขายรอบวีไอพี เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มียอดขายไปแล้วกว่า 60% ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าคนไทยครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งเป็นลูกค้าต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็น จีน ฮ่องกง และไต้หวัน
“จีนสนใจอสังหาฯในไทย มาจากหลายสาเหตุ เพราะอสังหาฯไทยราคาถูกกว่าจีน ขั้นตอนและเงื่อนไขการซื้อก็สะดวกกว่า ยิ่งในทำเลพระราม 9 ชาวจีนชอบเพราะอยู่ใกล้สถานทูตจีน และใกล้ย่านธุรกิจใหม่” นายวรายุ กล่าวและว่าด้วยเหตุนี้ พบว่าคนจีนชอบซื้ออสังหาฯในทำเลพระราม9 รัชดาฯ มากเป็นพิเศษ
สำหรับการขายโครงการ One 9 Five ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนออนไลน์ มีคนสนใจลงทะเบียนเข้ามา 5,000 ราย จากนั้นก็จัดงานขายในรอบวีไอพี เชิญแขกประมาณ 1,000 คน มีคนไทยราว 600 คนมาร่วมงาน และสามารถขายได้ 60%
หลังจากนี้บริษัทจะจัดงานเปิดห้องตัวอย่าง และโชว์ยูนิต ที่บริเวณโครงการในวันที่ 7-8 กรกฎาคม 2561 โดยจะเชิญลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และผู้สนใจมาร่วมงาน และคาดว่าจากงานนี้จะเพิ่มยอดขายโครงการปีนี้ ได้ตามเป้าที่วางไว้ คือ 80% ของจำนวนยูนิต
ส่วนระดับราคาขายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เปิดขายรอบแรกด้วยราคาเฉลี่ยที่ 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร ส่วนการเปิดขายรอบโชว์ยูนิตที่จะถึงนี้ ราคาปรับขึ้นมาเป็น 1.4 แสนบาทต่อตารางเมตร โดยยูนิตเล็กสุดราคาเริ่มต้นที่ 3.69 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้างโครงการจะแล้วเสร็จต้นมปี 2564
5 กลุ่มทุนจีนกระจายลงทุนหลายทำเล
นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากฮ่องกง กล่าวว่าการลงทุนอสังหาฯ โดยผู้ประกอบการจีน ฮ่องกง และไต้หวัน เริ่มมีมากขึ้นในปัจจุบัน คาดว่าในอนาคตกลุ่มจีน ฮ่องกง ไต้หวัน จะเข้ามาไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มทุนเหล่านี้ มักจะเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจ หรือเป็นผู้บริหารหลักแทนหุ้นส่วนชาวไทย
กลุ่มทุนจีนที่เข้ามาลงทุนดำเนินธุรกิจอสังหาฯในไทย ที่เคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้มีประมาณ 4-5 กลุ่ม จากข้อมูลที่พบว่า ทุนจีน ฮ่องกง และไต้หวัน เข้ามาร่วมทุนในไทยประมาณ 15 ราย โดยนักลงทุนจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ที่ประกาศการลงทุนชัดเจน ประกอบด้วย
- กลุ่มไรสแลนด์ จากฮ่องกง เข้ามาซื้อตึกร้างย่านถนนรัชดาภิเศษ ทำโครงการ อาร์ติซาน ถนนรัชดาภิเษก และซื้อที่ดินจากบริษัทณุศาศิริ มาเตรียมพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว เลค ซีรีน ที่ถนนพระราม 2
- บริษัท ทีซี ดีเวลลอปเม้นท์ หรือกลุ่มเทียเฉินจากจีน รุกเข้ามาพัฒนาโครงการ ทีซี กรีน บนถนนพระราม 9 และโครงการวัน ไนน์ ไฟว์ อโศก-พระราม 9
- บริษัท ซีทีซีซี จากจีน หรือ China TianChen Engineering Corporation ทำโครงการในซอยอ่อนนุช ชื่อโครงการอาร์ติมิส พัฒนาและขายหมดแล้ว
- บริษัท ไท่ฮังไท่ กรุ๊ป จำกัด เป็นทุนจีนอีกรายที่รุกเข้ามาลงทุนในอสังหาฯ แต่ไม่ได้พัฒนาเพื่อขาย โดยการพัฒนาตึกร้างย่านบางนา ตราด กม.2 อาคารก่อสร้างเก่าของไทยฟา กรุ๊ป เป็นอาคารไทย-ไชน่า ทาวเวอร์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง
- บริษัท บลูโอเชี่ยน เรียลเอสเตท จำกัด เป็นกลุ่มทุนไต้หวันที่เข้ามาซื้อโครงการพัฒนาตึกร้างย่านคลองเตย ที่ถนน ณ ระนอง ต่อจากบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม หรือทีเอฟดี ที่เข้าไปซื้อตึกร้างมาพัฒนาเป็นโครงการ เดอะ ฮาเบอร์ วิว เรสซิเดนซ์ โดยทุนไต้หวันรายนี้ซื้อเหมายกอาคารเตรียมนำไปพัฒนาเป็นโรงแรม
