หลังจากปีก่อน “พีพีทีวี” ประกาศกลยุทธ์สู้ศึกทีวีดิจิทัลด้วย World Class TV ผ่านคอนเทนท์ระดับโลก ทั้งการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และลีกดัง ที่เป็นคอนเทนท์ไฮไลท์ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวทีวีดิจิทัล เสริมด้วยฟอร์แมทดังและซีรีส์ยอดนิยม
มาปีนี้ “พีพีทีวี” ต่อยอดกลยุทธ์คอนเทนท์เพิ่มเติมด้วย World Class TV & More สิ่งที่เพิ่มขึ้น คือกลุ่มรายการวาไรตี้และละคร เพื่อมุ่งสู่การเป็นช่อง “วาไรตี้เต็มรูปแบบ” ขยายฐานผู้ชม Loyalty ติดตามพีพีทีวี จากกลุ่มกรุงเทพฯและคนเมือง โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่นชอบกีฬา ไปสู่ผู้ชมกลุ่มใหม่!
สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทบางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารทีวีดิจิทัลช่อง “พีพีทีวี” กล่าวว่ากลยุทธ์การพัฒนาคอนเทนท์ในปีนี้ ได้เพิ่มรายการละครหลากหลายแนวจากผู้จัดละครที่มีประสบการณ์ในธุรกิจทีวีที่จะเข้ามาร่วมงานกับพีพีทีวีอย่างต่อเนื่อง เช่น ทีวี ธันเดอร์, กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส, CHANGE 2561 รวมทั้งผู้จัด กุลณัฐ กุลปรียาวัฒน์,หนุ่ม อรรถพร ธีมากร,หัทยา วงศ์กระจ่าง โดยปีนี้เตรียมจ้างผลิตละครรวม 10 เรื่อง ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะเริ่มออนแอร์ช่วงไพร์มไทม์ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
นอกจากนี้ได้เพิ่มรายการกลุ่มวาไรตี้ ที่ได้รับความนิยมจากช่องฟรีทีวีเดิม เข้ามาในผัง เช่น รายการกิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน,รายการก่อนบ่ายคลายเครียด เป็นต้น
“ปีนี้เราพร้อมทำละคร ที่จะมีมาออนแอร์อย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมงานและดารานักแสดงในสังกัดส่วนหนึ่ง ที่พร้อมทำงานร่วมกับผู้จัดทุกราย ทั้งดารา นักแสดง ผู้จัด และรายการต่างๆ จากช่องฟรีทีวีเดิม ที่มาร่วมงานพีพีทีวี มองเห็นโอกาสและมั่นใจในการบริหารงานของสถานี เพราะเป็นสิ่งที่เงินไม่สามารถให้ได้”
หลังเปิดตัวทีวีดิจิทัลช่องพีพีทีวี ตั้งแต่ปี 2557 โดยมีรายการไฮไลท์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มานำเสนออย่างต่อเนื่องทำให้พีพีทีวี มีฐานผู้ชมกรุงเทพฯ และคนเมือง ในกลุ่มผู้ชายเป็นกลุ่มหลัก โดยปีนี้จะมีการเจรจากับ “เฟซบุ๊ก” ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาลใหม่ในประเทศไทย โดยจะมีการเจรจาหลังจบซีซันในเดือนพฤษภาคม โดยพีพีทีวียังสนใจซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษมาออกอากาศทางฟรีทีวีต่อเนื่อง
จากการเพิ่มรายการละคร ทำให้ได้ฐานผู้ชมกลุ่มใหม่ ผู้หญิง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีละครหลายแนวทั้งตลาดคนเมืองและกลุ่มแมสต่างจังหวัด รวมทั้งรายการวาไรตี้ ทอล์ก สำหรับผู้หญิงรายการใหม่ “เมย์ เอ๋ โอ๋” ขณะที่รายการวาไรตี้ กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้านและก่อนบ่ายคลายเครียด ที่จะมีฐานผู้ชมชนบทต่างจังหวัดและตลาดแมสมากขึ้น
ขณะที่รายการฟอร์แมทดังอย่าง The Voice ซึ่งเป็นรายการระดับโลกได้รับความนิยมเพิ่งขึ้น โดยปีนี้ได้เตรียมเปิดตัวฟอร์แมท เดอะวอยซ์ อีก 2 รายการ คือ เดอะวอยซ์ ซีเนียร์ และเดอะวอยซ์ คิดส์
การเสริมผังรายการละครแลวาไรตี้ใหม่ในปีนี้ ทำให้สัดส่วนรายการบันเทิงอยู่ที่ 50% จากเดิม 30-35% รายการกีฬา 20% จากเดิม 30% และรายการข่าว 30% จากเดิม 35-40%
ปัจจุบันรายการในช่วงไพรม์ไทม์ของพีพีทีวี ราคาโฆษณาสูงสุด (rate card) คือ พรีเมียร์ลีกและเดอะวอยซ์ อยู่ที่ 3 แสนบาทต่อนาที และรายการละครอยู่ที่ 2.5 แสนบาทต่อนาที ปีนี้วางเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” แต่ยังคงไม่คุ้มทุน
“การเพิ่มรายการวาไรตี้เข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้เรตติ้งพีพีทีวี ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 10 ปีนี้หากโชคดีละครได้รับความนิยม เรตติ้งอาจขยับมาอยู่ที่อันดับ 5 ได้เช่นกัน”
โดยรวมปีนี้พีพีทีวี จะใช้งบประมาณลงทุนรวมคอนเทนท์ราว 2,000 ล้านบาท เท่ากับปีก่อน หลังจาก กสทช.จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการจ่ายค่าใบอนุญาตอีก 2 งวดที่เหลือ และจ่ายค่าเช่าโครงข่ายทีวีและโครงข่ายมัสต์แคร์รี่ ตลอดอายุใบอนุญาตที่เหลืออีก 10 ปี จะช่วยให้ทีวีดิจิทัล มีเงินมาลงทุนผลิตคอนเทนท์มากขึ้น
ขอบคุณรูปจาก เฟซบุ๊ก pptv
