ดีแทคเปิดโพย 5 แอปพลิเคชันยอดฮิต รองรับการทำงานจากบ้าน ป้องกันไวรัสโควิด-19 เผย “Zoom” ผู้ใช้งานพุ่ง 828% ด้านดีแทค เพิ่ม “Massive MIMO” พร้อมรับมือจราจรออนไลน์ แหล่งพักอาศัยใช้งานเพิ่มสูงขึ้น
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า จากวิกฤติไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้องค์กรธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐเริ่มนำระบบการทำงานจากที่บ้านมาใช้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด ส่งผลให้ความนิยมในการใช้แอปพลิเคชั่นรองรับการทำงานจากที่บ้านเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
จากรายงานของดีแทค พบว่า ผู้ใช้งานจากฐานลูกค้ารวมในไตรมาสแรก (1 มกราคม-19 มีนาคม 2563) ให้ความสำคัญกับแอปพลิเคชันรองรับการทำงานจากบ้านเพื่อรับวิกฤตโควิด-19 โดยแอปพลิเคชันที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับมี ดังนี้
- อันดับ 1 คือ แอปพลิเคชัน Zoom ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 828%
- อันดับ 2 คือ แอปพลิเคชัน Skype ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 215%
- อันดับ 3 คือ แอปพลิเคชัน Google Hangouts Meet ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 67%
- อันดับ 4 คือ แอปพลิเคชัน Grab ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 36%
- อันดับ 5 คือ แอปพลิเคชัน Facebook Messenger และ LINE Call (VoIP) ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 17%
ขณะที่ 5 จังหวัดที่มีการใช้งานสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกคือ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรปราการ สงขลา และชลบุรี ตามลำดับ
สำหรับดีแทคได้วิเคราะห์แนวโน้มการใช้มือถือจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 เพื่อจัดทำแผนรองรับในกรณีฉุกเฉิน โดยจัดวางทีมงานในสายงานดูแลโครงข่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับทำงาน 24 ชั่วโมง ทุกวัน เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจในการใช้งานมือถือ โดยเฉพาะการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากที่พักอาศัยตามนโยบายทำงานจากที่บ้านขององค์กรต่างๆ
นอกจากนี้ ยังพบว่า พฤติกรรมการใช้งานดาต้าได้เติบโตสูงกว่าปกติเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยการใช้งานได้เพิ่มขึ้นต่างจากเดิมที่มีการเติบโตแบบหนาแน่นในพื้นที่ตามแหล่งที่จัดเทศกาล การจัดงาน หรือวันหยุดยาว แต่การเกิดสถานการณ์โรคระบาดทำให้ลดการเดินทาง การทำงาน การท่องเที่ยว รวมถึงหลายบริษัทได้เพิ่มนโยบายการทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home ทำให้รูปแบบการเติบโตจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนไปเป็นการเติบโตแบบกระจายตัวตามแหล่งพักอาศัย หมู่บ้าน อาคารชุด
พร้อมกันนี้ ดีแทคได้วางแผนทั้งระยะสั้น และระยะยาวรองรับจราจรออนไลน์ที่พุ่งสูง และรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนี้
- แผนระยะสั้นขยายขีดความสามารถรับส่งสัญญาณ – ทีมงานดีแทคจะวิเคราะห์ปัญหาการใช้งานที่เกิดจากความหนาแน่น โดยจะตรวจสอบและใช้โซลูชั่น การเพิ่มบริการ Massive MIMO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่ง 3 เท่า ช่วยแก้ปัญหาการใช้งานเพิ่มขึ้น
- แผนระยะยาวเพิ่มเสาสัญญาณและอุปกรณ์ – ทีมงานดีแทคจะเข้าประเมินในพื้นที่ และนำข้อมูลการใช้งานดาต้ามาวิเคราะห์เพื่อใช้โซลูชั่นที่จะออกแบบรองรับได้ตรงจุด โดยจะมีการใช้ทั้งการเพิ่มอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ (sector) เพื่อให้รองรับการเติบโตการใช้งานหรือปริมาณผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเพิ่มเสาสัญญาณโดยการเข้าประเมินในพื้นที่เพื่อหาโซลูชั่นที่ดีที่สุดซึ่งแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน
- จัดทีมวิศวกรโครงข่ายดูแล 24 ชั่วโมง – ดีแทคยังได้จัดทีมพิเศษเพื่อดูแลสัญญาณตลอด 24 ชั่วโมง ให้ลูกค้าได้มั่นใจในการใช้งานมือถืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงกระแสการทำงานจากบ้าน หรือ Work from home โดยจะบริหารจัดการสัญญาณมือถือให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานรูปแบบปัจจุบันที่เน้นการเติบโตตามแหล่งพักอาศัย
- ดีแทคคาด ‘ทำงานที่บ้าน’ ดันยอดใช้งานเน็ตพุ่ง 15%
- ‘ไร้สัมผัส’ ทางเลือกส่งอาหารมาแรง รับวิกฤติ ‘โควิด-19’ จีน
- ‘เคเอฟซี’ ร่วมป้องกันโควิด-19 แพร่ ส่งบริการใหม่ ‘อาหารไร้สัมผัส’
