Marketing Trends

สกัดส่งออก ‘หน้ากากอนามัย’ ชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต พบเริ่ม ‘ขาดตลาด’

“จุรินทร์” เผยหน้ากากอนามัยยังขาดตลาด สั่ง 9 โรงงานเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 35 ล้านชิ้น ออกประกาศต้องขออนุญาตก่อนส่งออก พร้อมสนัลสนุนกลุ่มแม่บ้าน ผลิตหน้ากากทางเลือกใช้เอง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงพบปัญหาหน้ากากอนามัย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้หารือกันได้กำหนดแผนในการรองรับแก้ไขปัญหาใน 2 ทาง คือ 1.การใช้หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่ 9 โรงงานทั่วประเทศ ซึ่งศักยภาพในด้านการผลิตต่อเดือน 30 ล้านชิ้น โดยขอให้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 35 ล้านชิ้นต่อเดือน

หน้ากากอนามัย

แนวทางที่ 2 รัฐบาลได้กำหนดให้มีการผลิตหน้ากากทางเลือก ซึ่งผลิตด้วยผ้าทั่วไป โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่น แม่บ้าน ผลิตออกมาแล้วใช้เอง เพราะกระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่าสามารถใช้ป้องกันโควิด-19 ได้ ซึ่งโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านการไอ จาม สารคัดหลั่งไปสัมผัส ถ้าผ้ากันได้ก็จะไม่ติดต่อกัน

ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบันพบว่า ยังคงมีปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาด จึงต้องประกาศเป็นสินค้าควบคุม พร้อมกำหนดว่าการส่งออกต้องขออนุญาตถ้าเกิน 500 ชิ้น แต่พบว่า มีคนหิ้วออกไปนอกประเทศ จึงต้องออกประกาศมาใหม่เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต คือต้องขออนุญาตทั้งหมด ซึ่งเป็นการสกัดการนำออก

จุรินทร์1
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

“ในประเทศเรายังไม่พอใช้ ต้องให้ในประเทศเราต้องพอใช้ก่อน จึงจะอนุญาตส่งออกได้หรือเป็นชนิดที่ประเทศไทยไม่ใช้”นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยนั้น กรมการค้าภายในต้องบริหารจัดการโดยจัดสรร 30% ให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแบ่งไปใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ ให้เพียงพอสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลทั้งหมด ที่เหลือต้องจัดให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

จุรินทร์4 2

ที่สำคัญคือต้องนำมากระจายให้ทั่วถึงในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ และร้านค้าย่อยทั่วประเทศ ซึ่งเน้นการกระจายให้ทั่วถึงมากที่สุด ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิตเดือนละแค่ 35 ล้านชิ้นและวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน แต่ไม่กี่วันมานี้ สามารถแก้ปัญหาโดยการหาแหล่งวัตถุดิบอื่นได้จากอินโดนีเซียส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาทำหน้ากากอนามัย

Avatar photo