Marketing Trends

‘ลูกจ้างไทย’ ผูกพันองค์กรสูง ลาออก ‘น้อยที่สุด’ ในโลก

ควอทริคซ์ เผยผลสำรวจความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรในไทย พบความผูกผันของพนักงานต่อองค์กรในไทยสูงถึง 72% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 53% และ 8% ของพนักงานชาวไทย จะเปลี่ยนงานภายในระยะเวลาหนึ่งปี ซึ่งต่ำที่สุดในโลก

ควอทริคซ์ (Qualtrics) ผู้พัฒนาระบบบริหารจัดการประสบการณ์ เปิดเผยผลการศึกษาเรื่อง แนวโน้มประสบการณ์ของพนักงานในปี 2563 (2020 employee experience trends) พบว่าบริษัทในประเทศไทยได้รับประโยชน์จาก จำนวนพนักงานลาออกต่ำที่สุดทั่วโลก โดยพนักงานในประเทศไทยเพียง 8% เท่านั้นที่ตั้งใจจะอยู่กับบริษัทน้อยกว่า 1 ปี และจำนวนพนักงานที่มองหางานใหม่เพิ่มขึ้นสองเท่า หรือ 16% เมื่อถามถึงช่วงเวลาทำงานกับบริษัทถึงสองปี

career 3536331 1280

ทั้งนี้จากการศึกษาทั่วโลก พบว่า พนักงาน 18% ตั้งใจจะอยู่กับบริษัทเดิมน้อยกว่า 1 ปี ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ที่มีอัตราการลาออกของพนักงานต่ำ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น 11% และเยอรมันนี 13% ในทางกลับกัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อยู่ที่ 23% และสหราชอาณาจักรอังกฤษ 23% ต้องเผชิญกับการย้ายงานในอัตราสูง

เมื่อพูดถึงความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร พนักงานในประเทศไทยมีความผูกพันกับองค์กร 72% ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่มีอัตราส่วน 53% และเป็นลำดับสอง รองจากอินเดียที่มีอัตราส่วน 79% และตามมาด้วยฮ่องกงที่อัตราส่วน 63%

ที่สำคัญคือ ความผูกพันของพนักงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 85% เมื่อผลตอบรับของพนักงานได้รับการตอบสนองและนำไปดำเนินการ ในขณะที่ความผูกพันต่อองค์กรจะลดลงมาที่ 55% หากผลการตอบรับนั้นไม่ได้นำไปปฏิบัติ

นอกจากนี้ยังพบว่า ความผูกพันของพนักงานอยู่ที่ 79% เมื่อผลตอบรับนั้นได้ถูกรวบรวมและนำไปปฏิบัติอย่างช้าไม่เกินไตรมาส ในขณะที่ ถ้าหากว่าความถี่มีเพียง 1-2 ครั้งต่อปี ความผูกพันของพนักงานจะลดลงเล็กน้อยที่ 74%

นายสตีเฟ่น ชู นักวางกลยุทธ์โซลูชั่นอาวุโส ควอทริคซ์ กล่าวว่า จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการสอบถามเสียงสะท้อนจากพนักงาน และความถี่ที่องค์กรถาม ส่งผลโดยตรงต่อระดับคะแนนความผูกพันของพนักงาน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ขับเคลื่อนแท้จริงแล้ว คือ ความรู้สึกของพนักงานที่ว่าองค์กรได้นำความคิดเห็นของพวกเขาไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมหรือไม่

“ผลกระทบเชิงบวกของความผูกพันของพนักงาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม พนักงานสมัยใหม่ มีประสบการณ์กับโปรแกรมเหล่านี้ ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและเร็วขึ้น สำหรับองค์กรที่เปิดรับฟังความคิดเห็น และนำไปปรับใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มั่นใจในการตัดสินใจ เพราะมาจากพื้นฐานของกลุ่มพนักงานที่มีใจให้องค์กร”นายชู กล่าว

GraphTH

ปัจจัยสำคัญในการผลักดันประสบการณ์พนักงานในไทย พบว่า 64% ของพนักงานในประเทศไทยเชื่อว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่นายจ้างรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา องค์กรธุรกิจที่มีโปรแกรมเปิดรับฟังความคิดเห็นพนักงานทำให้ระดับคะแนนความผูกพันของพนักงานบรรลุเป้าหมายถึง 77% เปรียบเทียบกับองค์กรที่ไม่มีโปรแกรมเปิดรับฟังความคิดเห็น พนักงานมีความผูกพันลดลงมาอยู่ที่ 55%

ขณะที่ปัจจัยอันดับต้นๆ ที่สร้างให้เกิดความผูกพันของพนักงานในประเทศไทย คือ การประกาศเกียรติคุณการทำงานดีของพนักงาน เส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างการทำงาน และวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ขององค์กร โอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนา ผู้จัดการที่ช่วยพนักงานในการพัฒนาสายอาชีพ และความมั่นใจในผู้นำอาวุโสที่จะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

ผลการศึกษาล่าสุดของควอทริคซ์ ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจในการปรับปรุงประสบการณ์การทำงานของพนักงาน รวมถึงมาตรการที่ควรต้องทำเพื่อให้พนักงานทุกๆ คนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องปฏิวัติองค์กร เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับองค์กรที่ต้องถามความคิดเห็น และรับฟังพนักงานอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญที่สุด คือ นำมาปฏิบัติใช้

สำหรับองค์กรในประเทศไทย ความผูกพันของพนักงาน เป็นปัจจัยที่ทำให้พนักงานอยู่กับองค์กรยาวนานขึ้นและเพิ่มมากขึ้น โดยอัตราส่วนสูงสุดอยู่ที่การทำงานในปีที่ห้า อย่างไรก็ตาม ความผูกพันเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สะท้อนความต้องการ ที่องค์กรต้องเข้าใจและปฏิบัติตามสำหรับประเด็นปัญหาสำคัญอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันและสร้างให้เกิดความผูกพัน สำหรับพนักงานที่ทำงานน้อยกว่าสองปี คือ ความเชื่อมั่นต่อผู้นำอาวุโส ส่วนปัจจัยหลักที่สร้างให้เกิดความผูกพันของพนักงานที่ทำงานมามากกว่า 4 ปี คือ ความเชื่อมโยงระหว่างลักษณะงาน และวัตถุประสงค์ของบริษัท

Avatar photo