คลัสเตอร์เครื่องสำอางไทยเผยศักยภาพ โอกาส เครื่องสำอางไทยไปไกลระดับโลก คินเท็กซ์ จับมือ ไอซีเว็กซ์ จัดงาน “Bangkok Beauty Show 2019” เผยสร้างสัมพันธ์ไทยเกาหลี ดึง เดอะเฟซ ไทยแลนด์ร่วมแจม
ดร.ธนธรรศ สนธีระ รองประธานคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย ภายใต้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 2.76 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 10% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นสัดส่วนตลาดในประเทศ 1.81 แสนล้านบาท และตลาดส่งออก 9.5 หมื่นล้านบาท โดยมีตลาดส่งออกหลักคือ อาเซียน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ยังพบว่า 2 เดือนแรกของปี 2562 ประเทศไทยมีมูลค่าส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องอางแล้วกว่า 16,160 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 20% สะท้อนได้ว่าตลาดส่งออกยังคงสดใส ขณะที่ตลาดเครื่องสำอางในประเทศมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นราว 7.7% โดยกำลังซื้อส่วนใหญ่มียอดการซื้อต่อครั้งไม่เกิน 1,500 บาทและหันไปซื้อบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นประตู หรือเกตเวย์ของเอเชียไปสู่ตลาดโลก อีกทั้งยังมีปัจจัยสนับสนุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่มีมากมาย สมุนไพรหลากหลาย การขนส่งสะดวก รวมถึงการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน
ด้านนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไอซีเว็กซ์ จำกัด ในเครือบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภูมิภาคอาเซียนเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพและเติบโตสูง จึงกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของผู้ประกอบการนานาประเทศ รวมถึง รวมถึงผู้ประกอบการในไทย ซึ่งในปัจจุบัน กลุ่มประเทศอาเซียนถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย คิดเป็นสัดส่วนถึง 43% ของภาพรวมการส่งออกสินค้าสุขภาพและความงามในปี 2561 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ตลาดอาเซียนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี อย่าง กัมพูชา เมียนมา ลาว และเวียดนาม นับว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่สูงขึ้นของคนรุ่นใหม่ๆ ทั้งยังทำตลาดได้ง่ายเพราะประเทศเหล่านี้ติดตามและชื่นชอบเหล่าศิลปินและผู้มีชื่อเสียงของไทยอยู่แล้ว ทั้งยังมีประเด็นความสนใจและแนวโน้มการบริโภคสื่อทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อดิจิทัลใหม่ๆใกล้เคียงกัน สภาพผิวที่ใกล้เคียงกับคนไทย และค่านิยมการดูแลร่างกายที่ดีขึ้น ก็สอดคล้องกับทิศทางตลาดในปัจจุบันที่มาจากการนำของกลุ่มเครื่องสำอางดูแลผิวหน้าซึ่งมีขนาดใหญ่และเติบโตสูงที่สุด
นางสาวเอลี่ คิม ผู้จัดการโครงการ Bangkok Beauty Show 2019 เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ที่ถือได้ว่าไทยเป็นผู้นำตลาด
กล่าวว่า “..การจัดงานเป็นปีที่ 2 ในครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดียิ่งขึ้นจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมความงามในประเทศและต่างประเทศ มีผู้ประกอบการต่างประเทศเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นจาก 10 ประเทศเป็นกว่า 20 ประเทศ
นางสาวเอลี่ คิม ผู้จัดการโครงการ Bangkok Beauty Show 2019 เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ที่ถือได้ว่าไทยเป็นผู้นำตลาด จึงได้จัดงาน Bangkok Beauty Show 2018 ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากครั้งแรกประสบความสำเร็จด้วยดี โดยมีผู้ประกอบการออกบูธ 180 บริษัทจาก 10 ประเทศ มีผู้เข้าชมงานมากกว่า 7,213 คน จาก 37 ประเทศ มีบริษัทต่างประเทศจำนวน 194 บริษัทจาก 16 ประเทศที่มาเจรจาธุรกิจภายในงาน รวมเป็นมูลค่าเงินสะพัดทั้งภายในและภายหลังงาน 660 ล้านบาท
สำหรับการจัดงานปีนี้ จะมีผู้ประกอบการจาก 20 ประเทศ อาทิ ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และประเทศไทยฯ ร่วมจัดแสดงบนพื้นที่ 5,480 ตารางเมตร ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ ทั้งการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเก่า-ใหม่ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจส่งเสริมผู้ประกอบการสู่ตลาดสากล มีผู้ซื้อรายใหญ่ในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 200 บริษัท อาทิ ห้างล็อตเต้จากเกาหลี, และบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยอย่าง ซีพีออลล์ และเซ็นทรัลกรุ๊ป โดยตั้งเป้าปีนี้จะมี ผู้เข้าชมกว่า 10,000 คนทั้งในและจากต่างประเทศ มีมูลค่าเม็ดเงินสะพัดรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
อีกไฮไลต์ในงานคือ การที่ เดอะเฟซ ออฟ เอเชีย และเดอะเฟซ ออฟ ไทยแลนด์ เข้ามาร่วมจัดงาน เฟซ ออฟ ไทยแลนด์ภายในงานนี้ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนางแบบและนายแบบตัวแทนประเทศไทยในก้าวสู่เวทีประกวด Asia Model Festival 2020 ซึ่งเป็นศูนย์กลางความงามระดับโลก โดยมองว่า สินค้าความงามจะเป็นเครื่องสานสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและเกาหลีให้เติบโตงอกงามต่อไป
