Economics

‘ศักดิ์สยาม’ ทำเอ็มโอยู ‘เชื่อมระบบคอมพิวเตอร์-แลกเปลี่ยนข้อมูล’ ยกระดับบริการ ‘ทางพิเศษ’

“ศักดิ์สยาม” เดินหน้าทำเอ็มโอยู เชื่อมโยง ระบบคอมพิวเตอร์ แลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบสารสนเทศ ยกระดับการให้บริการ สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้ทางพิเศษ เพื่อความมั่นคง และความปลอดภัยสาธารณะ

วันนี้ (21 พ.ย.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบสารสนเทศ ระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดย นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ทางพิเศษ

โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยผู้บริหาร และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน ณ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย และความสงบสุขของประชาชนในประเทศ เริ่มตั้งแต่ระดับชุมชน รวมถึงการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ผ่านการปฏิรูประบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการให้บริการของภาครัฐ เพื่อให้การดำเนินงาน และการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมมีความมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการประชาชน โดยมีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ตระหนักถึงการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ และสังคมในภาพรวม พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อบูรณาการในการดำเนินงานร่วมกัน

ทางพิเศษ

ที่ผ่านมาการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้พัฒนาการให้บริการทางพิเศษแก่ผู้ใช้ทางมาโดยตลอด โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการยกระดับการให้บริการ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดในการสัญจรบนทางพิเศษ ซึ่งเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ที่ กทพ. ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เป็นเครื่องมือสำคัญในการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องของ บช.ก. ได้ โดยปัจจุบัน กทพ. มีปริมาณผู้ใช้ทางพิเศษ เฉลี่ยมากถึง 1.8 ล้านคันต่อวัน

สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบสารสนเทศ ระหว่าง กทพ. และ บช.ก.

กทพ. จะทำการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ใช้ทางพิเศษและข้อมูลอื่น ๆ จากฐานข้อมูลระบบจราจรอัจฉริยะที่มีอยู่ในระบบสารสนเทศ ได้แก่ ฐานข้อมูลระบบจราจรอัจฉริยะ (ITS Center) ฐานข้อมูลระบบ Data Exchange Center และฐานข้อมูลระบบ Automatic Lane Control

ทางพิเศษ

ในขณะที่ บช.ก. จะจัดให้มีมาตรการ ในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวมิให้ถูกละเมิด เป็นไปตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรม อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพ ในการสืบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน และนำมาซึ่งความมั่นคงและความปลอดภัยของสาธารณะ

S 162660389

ทั้งนี้ การบูรณาการความร่วมมือเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์และแลกเปลี่ยนข้อมูลในระบบสารสนเทศ ระหว่าง กทพ. กับ บช.ก. ครั้งนี้ ถือเป็นเป็นมิติใหม่ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการเชื่อมโยง และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นำมาซึ่งความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงยกระดับการให้บริการประชาชนของทั้ง 2 หน่วยงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนและประเทศชาติต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo