นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) เชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และการลงทุนที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 224,544.36 ล้านบาท วันนี้ (28 ม.ค.) ว่า
วันนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เชิญกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CP) ผู้ยื่นข้อเสนอด้านราคาดีที่สุด เข้าหารือเรื่องร่างสัญญาที่มีกว่า 200 หน้า โดยวันนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเจรจาร่างสัญญา จึงเปิดโอกาสให้กลุ่ม CP และคณะกรรมการคัดเลือกฯ แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกิดขึ้น
เบื้องต้นที่ประชุมได้เจรจาเงื่อนไขสัญญาในกรอบแรกเท่านั้นและพบว่ามีประเด็นที่มีนัยยะสำคัญต้องเจรจาอีกราว 30-40 หัวข้อ ซึ่งก็จะเริ่มเจรจาในหัวข้อที่ยากที่สุดก่อน แล้วจึงเจรจาประเด็นที่ง่ายขึ้นในภายหลัง โดยวันนี้บรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปด้วยดี การเจรจามีความคืบหน้าและเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ก็มีจุดยืนในฝั่งภาครัฐและกลุ่ม CP ก็มีจุดยืนในฝั่งเอกชน
ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะนัดหารือเป็นการภายในอีกครั้งไม่เกินวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 และได้นัดกลุ่ม CP เจรจาครั้งถัดไปในเวลา 13.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ยังระบุไม่ได้ว่าต้องนัดเจรจาอีกกี่ครั้งและจะแล้วเสร็จเมื่อใด เพราะถ้าหากยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ก็ต้องเดินหน้าเจรจาต่อไป ซึ่งก็ต้องหารือจนรู้ผลว่า การเจรจาครั้งนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ว่า การเจรจาจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดพิจารณาเป็นเวลาไม่เกิน 2 สัญญา โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาตะวันออก (กพอ.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนมีนาคม
“ไม่หนักใจ เพราะมีคณะกรรมการฯ แค่นี้ ทุกคนก็เข้าใจ คุยกันตลอด มุมมองเหมือนกัน แต่การเจรจาระหว่างรัฐและเอกชนมันก็มุมมองต่างกัน ต้องใช้เวลา” นายวรวุฒิกล่าว
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันการรถไฟฯ เตรียมเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) ฉบับปรับปรุง ของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินและโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (Missing Link) สีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (คชก.) พิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ โดยคาดว่าน่าจะผ่านความเห็นชอบได้ในการประชุมครั้งนี้ หรือถ้าหากยังไม่ผ่าน ก็อาจต้องปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น