Economics

ผ่อนคลายล็อคดาวน์หนุนดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. พุ่งต่อเนื่องเดือนที่ 3

ผ่อนคลายล็อคดาวน์หนุนดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคมพุ่งต่อเนื่องเดือนที่ 3 พร้อมยื่น 3 ข้อเสนอ จี้รัฐเตรียมมาตรการรับมือเพื่อป้องกันผลกระทบกรณีเกิดอุทกภัยในพื้นที่เศรษฐกิจ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 90.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 89.0 ในเดือนกรกฎาคม โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยในประเทศเป็นสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ปรับตัวดีขึ้นและภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การบริโภคในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น สะท้อนจากความต้องสินค้าภาคอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม

ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวมีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังการยกเลิก Thailand Pass รวมถึงมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐและยุโรป ที่เผชิญปัญหาเงินเฟ้อ

สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังมีความไม่แน่นอน รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนชิป ส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์บางรุ่น เป็นปัจจัยลบต่อภาคการส่งออกของไทย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากราคาวัตถุดิบ อาทิ อาหารสัตว์ เหล็กและอลูมิเนียม ค่าไฟฟ้า รวมถึงต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่ทรงตัวในระดับสูง แม้ว่าในเดือนสิงหาคมต้นทุนด้านราคาน้ำมันจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนต่างด้าวในภาคการผลิต

ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม

จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,304 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในเดือนสิงหาคม 2565 พบว่า

ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ 

  • สภาวะเศรษฐกิจโลก 75.9%
  • สถานการณ์การเมือง 42.8%
  • อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ 39.3%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 35.7%

ปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ 

  • ราคาน้ำมัน 77.6%
  • เศรษฐกิจในประเทศ 45.9%
  • สถานการณ์ระบาดของโควิด 48.7%

ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม

สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 98.7 ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวแบบช้า ๆ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราจ้างขั้นต่ำ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 รวมถึงการปรับขึ้นค่าไฟฟ้ารอบใหม่ในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 จะส่งผลให้ต้นทุนประกอบการสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ

  1. เร่งออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า และการปรับขั้นค่าจ้าง ขึ้นต่ำ อาทิ การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ใผู้ประกอบการ SMEs,สนับสนุนงบประมาณเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ
  2. อำนวยความสะดวกในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำเครื่องจักรมาใช้ในการผลิตมากขึ้น
  3. ภาครัฐควรเตรียมมาตรการรับมือเพื่อป้องกันผลกระทบกรณีเกิดอุทกภัยในพื้นที่เศรษฐกิจ รวมทั้งควรมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและน้ำแล้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo