“รมว.คลัง” เชื่อ “กนง.” จะพิจารณาหลายมิติ ทั้งภาพรวมและระยะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเคลื่อนย้ายเงินทุน และเงินเฟ้อ ก่อนเคาะปรับดอกเบี้ย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมวันนี้ คงต้องพิจารณาและให้น้ำหนักในหลายมิติ ทั้งภาพรวมและระยะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเคลื่อนย้ายเงินทุน และเงินเฟ้อ รวมไปถึงที่หลายฝ่ายมองว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐในปัจจุบันค่อนข้างกว้าง ซึ่งอาจต้องลดช่องว่างนี้ลงเพื่อรองรับเรื่องการเคลื่อนย้ายเงินทุน
เชื่อพิจารณาหลายมิติ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้เคยพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว เพื่อให้มีการสื่อสารเรื่องนโยบายการเงินกับธนาคารพาณิชย์อย่างชัดเจน ส่วนสถาบันการเงินของรัฐนั้น กระทรวงการคลังจะทำหน้าที่ในการสื่อสารเอง
นายอาคม กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เคยขอความร่วมมือไปยังสถาบันการเงินของรัฐให้ช่วยตรึงดอกเบี้ยไว้ให้นานที่สุด เพื่อเป็นการแบ่งเบาและช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ส่วนธนาคารพาณิชย์นั้น คงต้องฝากให้ ธปท.ช่วยสื่อสาร
“ที่ผ่านมาเมื่อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะใช้ระยะเวลาในการส่งผ่านนโยบายไปถึงสถาบันการเงินประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าว สถาบันการเงินจะใช้ในการปรับตัว ปรับดอกเบี้ย หากสถาบันการเงินขยับดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็จะกระทบกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ให้ชะลอลงได้ ดังนั้นธนาคารพาณิชย์จึงต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบด้วย” นายอาคม กล่าว
ธปท.ต้องดูแลค่าเงินบาท
ส่วนสถานการณ์เงินบาทในปัจจุบันที่กลับมาแข็งค่านั้น มองว่า ภาคส่งออกไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือผลกระทบ โดยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเป็นหน้าที่ของ ธปท. ที่จะต้องดูแลไม่ให้แข็งค่าเกินไปหรืออ่อนค่าเกินไป ขณะที่ภาคธุรกิจเองก็ต้องปรับตัว และมีการบริหารความเสี่ยง โดยอาจหันมาใช้วัตถุดิบภายในประเทศมากขึ้นในการผลิตสินค้า
สำหรับแนวทางการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น นายอาคม มองว่า การดำเนินการต้องดูในจังหวะเวลาที่เหมาะสม หากเศรษฐกิจฟื้นตัว ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรงก็สามารถทำได้ แต่หากอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การใช้จ่ายของประชาชนอาจได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จนทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็ได้เข้าไปช่วยเหลือผ่านมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลังตอบแล้ว! ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ รอบใหม่ เคยมีบัตรแล้วต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่
- เตือนภัย อย่าคลิก!! เว็บไซด์ ‘กระทรวงการคลังปลอม’ แนะให้ดูจุดสังเกต
- คลังโชว์รายได้ 9 เดือน 1.8 ล้านล้าน กู้ชดเชยขาดดุลพุ่งกว่า 6.2 แสนล้าน