“ซีพีเอฟ” จับมือ “เอฟไอที” เดินหน้าพัฒนาศักยภาพเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 สนับสนุนเพิ่มผลผลิต คุณภาพข้าวโพดดีตรงตามตลาดได้ราคาดี รวมทั้งเข้าถึงเทคโนโลยีทันสมัย หนุนการปลูกที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเพาะปลูก ไม่เผาหลังเก็บเกี่ยว
นายวรพจน์ สุรัตวิศิษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทเดินหน้าจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกข้าวโพดสำคัญของประเทศ อาทิ จังหวัดนครราชสีมา อุทัยธานี และพิษณุโลก
ภายใต้โครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” สนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดบนพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ ให้มีความรู้ และความเข้าใจในการเพาะปลูกที่ดี และมีความรับผิดชอบ รวมถึงได้เข้าถึงเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับตัวเกษตรกร และสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้ บริษัทมุ่งพัฒนาให้ผู้ปลูกมีความรู้เกี่ยวกับเพิ่มผลผลิต และมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด เพื่อขายได้ราคาที่ดี พร้อมช่วยเกษตรกรเพิ่มขีดความสามารถ ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่าย และบริหารจัดการต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเพาะปลูก
“ในการอบรม นอกจากจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้เกษตรกร สามารถเพิ่มผลผลิตแล้ว ยังจะช่วยให้เกษตรกรมีความรู้ และความเข้าใจ ในแนวทางการเพาะปลูก ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้น ไล่ตั้งแต่การไถพรวนเตรียมดิน การลดการใช้ปุ๋ยเคมี การไถกลบเศษซากทดแทนการเผาหลังเก็บเกี่ยว และสนับสนุนการปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของดิน”
เกษตรกรที่เข้าการอบรมได้ความรู้การวางแผนการปลูกที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้คุณภาพ ลดการสูญเสียจากสภาพอากาศแปรปรวน โดยบริษัทช่วยวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินให้กับเกษตรกรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปสู่การใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม
ความร่วมมือกับทรู ดิจิทัล นำโดรนพ่นยาให้บริการเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรได้สัมผัสกับเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่ทันสมัย ช่วยบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และในช่วงการเก็บเกี่ยว บริษัทจะเปิดจุดรับซื้อผลผลิตที่ใกล้แหล่งเพาะปลูกเกษตรกร ส่งเสริมเกษตรกรนำผลผลิตมาจำหน่ายตรงกับโรงงาน และเป็นการช่วยลดภาระค่าขนส่งผลผลิตให้เกษตรกรอีกด้วย
ทางด้านนายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ กล่าวว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นรากฐานของความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ และ เป็น 1 ในวัตถุดิบการเกษตรหลักของบริษัท ที่มีความเสี่ยงต่อประเด็นการบุกรุกพื้นที่ป่า
บริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เอฟไอที (FIT) กำหนดการรับซื้อตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” โดยพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Corn Traceability) ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อให้มั่นใจว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่ได้มาจากแหล่งที่บุกรุก หรือตัดไม้ทำลายป่า
ใน 2564 ที่ผ่านมา ซีพีเอฟสามารถจัดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผ่านการตรวจสอบย้อนกลับมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ไม่ได้มาจากแหล่งปลูกที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ได้ทั้งหมด 100%
นายเรวัติ บอกด้วยว่า ความร่วมมือดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” เป็นแนวทางหนึ่ง ที่จะช่วยจัดการปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน สร้างความสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ช่วยให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพ จำหน่ายตรงให้กับผู้ใช้ที่มีระบบการซื้อที่โปร่งใส ช่วยให้เกษตรกรได้ราคาขายผลผลิตที่เป็นธรรม และเกษตรกรได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
ซีพีเอฟ โดยโรงงานอาหารสัตว์ ยังได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชน เข้ามาช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลให้เชื่อมต่อเข้าสู่กระบวนการผลิต เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคู่ค้าและลูกค้าว่า บริษัทใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแหล่งปลูกที่รับผิดชอบ ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า ไม่เผาหลังเก็บเกี่ยว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายการดำเนินการตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปยังกิจการต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ จีน อินเดีย และเวียดนาม ด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซีพีเอฟ’ ชูนวัตกรรมรับเทรนด์ ‘อาหารแห่งอนาคต’ ตอกย้ำสถานะ ‘Food Tech Company’ แถวหน้าโลก
- ‘ซีพีเอฟ’ ชูมาตรฐานต้นแบบเลี้ยงปลา ‘CARE Aquaculture Model’ ผลิตอาหารปลอดภัย
- ‘ซีพีเอฟ’ มุ่งสร้าง ‘ห่วงโซ่ผลิตอาหาร’ เคารพสิทธิมนุษยชน เท่าเทียม ไร้ค้ามนุษย์ ไม่ใช้แรงงานเด็ก