Economics

‘กฟผ.’ แบกภาระ ‘ค่าเชื้อเพลิง’ ใกล้ทะลุ 1 แสนล้านบาท วอนรัฐช่วยดูแล

“กฟผ.” วอนรัฐช่วยดูแล หลังร่วมรับภาระค่าเชื้อเพลิงแล้วเกือบ 100,000 ล้านบาท ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เผย กู้เงินนับหมื่นล้านมาเสริมสภาพคล่องแล้ว แต่ยังไม่พอ ต้องกู้เพิ่มอีก แจง “กำไรสะสม” เป็นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานในรูปของสินทรัพย์เพื่อผลิต และส่งไฟฟ้า ไม่ใช่เงินสด นำมาช่วยพยุงค่าไฟฟ้าไม่ได้

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ​ การไฟฟ้าฝ​่ายผลิตแห่​งประเทศไทย ​(กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ห่วงใย​ต่อความเดือดร้อนของประชาชน จากปัญหาวิกฤต​ิราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง​ โดยร่วมรับภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชน ตามแนวทางบริหารค่าไฟฟ้าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่งวดเดือนกันยายน 2564 จนถึงปัจจุบัน​ รวมแล้วเกือบ 100,000 ล้านบาท

กฟผ.

แม้ กฟผ. จะพยายามแก้ปัญหาเบื้องต้น ด้วยการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแล้วจำนวน 25,000 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอต่อการแบกรับภาระค่า​เชื้อเพลิง​ที่เกินกำลัง เนื่องจากราคาเชื้อเพลิง​ในตลาดโลก ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง​

กฟผ. วอนรัฐช่วย รับภาระค่า​เชื้อเพลิงเกินกำลัง

กฟผ. จึงมีความจำเป็นต้องแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นจริง วอนรัฐช่วยดูแล เพื่อไม่ให้กระทบต่อความความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว

ทั้งนี้ กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้มุ่งแสวงหากำไร โดยราคาค่าไฟฟ้า และกำไรของ กฟผ. ถูกกำกับโดย กกพ. ให้มีรายได้เพียงพอต่อการลงทุน และบริหารกิจการเท่านั้น ซึ่งกำไรของ กฟผ. จะถูกนำส่งกระทรวงการคลังเป็นเงินรายได้แผ่นดิน เพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ รวมถึงลงทุนในระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและส่งไฟฟ้าของประเทศ ให้มีความมั่นคงทางพลังงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

ส่วนกำไรสะสมของ กฟผ. จำนวน 329,000 ล้านบาท ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงินนั้น ไม่ใช่เงินสด แต่เป็นการแสดงตัวเลขสะสมของมูลค่าสินทรัพย์ที่ กฟผ. นำกำไรส่วนที่เหลือจากการนำส่งกระทรวงการคลังในแต่ละปี​ ไปลงทุนในรูปของสินทรัพย์ที่ใช้ผลิต และส่งไฟฟ้าให้แก่ประชาชน อาทิ โรงไฟฟ้า สถานีส่งไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้า ตลอดระยะเวลากว่า 50 ปีนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการ จึงไม่สามารถนำกำไรสะสมดังกล่าว มาจ่ายชดเชยค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้

กฟผ.
บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร

กฟผ. ยังคงติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด และร่วมกับภาครัฐบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพื่อลดภาระค่าเชื้อเพลิงและต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า เช่น ปรับแผนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนถูกก่อน เลื่อนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ใช้ถ่านหินในประเทศ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงราคาถูกในการผลิตไฟฟ้า

ควบคู่กับการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานอย่างเข้มข้นทั้งในสำนักงาน เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้า กฟผ. ทั่วประเทศ สู่เป้าหมายลดใช้พลังงานลง 20% เพื่อช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาสูงจากต่างประเทศ โดยประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยประเทศให้ก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ด้วยการประหยัดพลังงาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo