Economics

‘กอบศักดิ์’ เตือน ไทยเตรียมรับมือ ‘เศรษฐกิจถดถอย’ พร้อมกันทั่วโลก

“กอบศักดิ์” เตือน ไทย เตรียมรับมือ ชี้ โลกกำลังสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยพร้อม ๆ กัน สถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเพียง 5 ครั้งเท่านั้น ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา 

วันนี้ (17 ก.ค.) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจ กอบศักดิ์ ภูตระกูล  กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกถดถอย โดยระบุว่า

เศรษฐกิจถดถอย

Global Recessions: โลกถดถอย !!!

เราเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอยอยู่บ่อยครั้ง แต่ Global Recessions เป็นปัญหาที่หนักขึ้นจากเดิมไปอีกหลายขั้น

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะเศรษฐกิจถดถอยเป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ประเทศที่พัฒนาแล้ว เกิดเศรษฐกิจถดถอยรวมกันประมาณ 150 ครั้ง ในช่วงตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา

เวลาที่เศรษฐกิจขยายตัวไปสักระยะ ก็จะสะสมปัญหาต่าง ๆ เอาไว้ ท้ายสุดก็มักจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นการชั่วคราว

การเข้าสู่ Recession จะช่วยชะล้างปัญหาต่าง ๆ บริษัทที่อ่อนแอ ก็จะต้องปิดตัวไปในช่วงนี้ คนตกงาน รวมไปถึงคนที่จ้างมาเกินก็ตกงานกันช่วงนี้ ธนาคารจัดการปัญหาหนี้เสียออกจาก Balance Sheets ถ้ามีเงินเฟ้อสูงด้วย ช่วงนี้เงินเฟ้อก็จะลดลง ถ้ามีฟองสบู่ ฟองสบู่ก็จะแฟบ

ทั้งหมดจะช่วย Set zero ให้กับระบบ หลังจากนั้น ก็จะเข้าสู่จุดเริ่มต้นใหม่ ที่ดอกเบี้ยต่ำ แบงค์เริ่มปล่อยกู้ หุ้นสดใส บริษัทเริ่มเปิดใหม่ ขยายกิจการ เริ่มจ้างงาน คนเริ่มใช้จ่าย มีข่าวดี 5-6 วัน ใน 7 วัน

วัฏจักรขยายตัว-ถดถอย หรือ Expansion-Recession เป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ ที่ปกติแล้วจะขยายตัว 4-5 ปี แล้วตามมาด้วยถดถอย 4-5 ไตรมาส สลับกันไป

“ธุรกิจมีขึ้นมีลง” เศรษฐกิจก็เช่นกัน “มีขึ้นมีลง” ส่วนเวลาที่ใช้ บางครั้งสั้นกว่านี้ บางครั้งยาวกว่านี้ แล้วแต่ว่าปัญหานั้นลึกแค่ไหน หากมีวิกฤติการเงิน วิกฤตฟองสบู่แตก ที่มีหนี้เสียมากมาย ประกอบอยู่ด้วย ก็จะใช้เวลามากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ช่วงต้มยำกุ้งในไทย หรือ Subprime ในสหรัฐ ประเทศที่เป็นต้นตอของวิกฤตื ก็มักจะต้องใช้เวลาเพิ่มอีก 3-4 ปี หลังผ่านช่วงถดถอยไปแล้ว ในการพักฟื้น ก่อนที่จะกลับมามีสุขภาพปกติ สามารถเริ่มต้นใหม่ได้

สหรัฐ หลัง Subprime ถดถอยไป 1.5 ปี ตามด้วยการคลี่คลายปัญหาอีก 4-5 ปี Dow Jones เคยสูงสุดที่ 14,000 จุด เมื่อปลายปี 2007 กว่าจะกลับไปจุดเดิม ก็ต้องปี 2013  ส่วนราคาบ้านสหรัฐที่เคยสูงสุดปี 2006 กว่าที่ราคาบ้านจะคึกคักอีกครั้ง ก็ต้องปี 2012 กว่าจะกลับไปจุดเดิม ก็ต้องปี 2016

ไทยหลังต้มยำกุ้งเมื่อปี 1997 กว่าหุ้นจะเริ่มฟื้นก็ต้องปี 2002-2003 ไปแล้ว แต่หากไม่มีวิกฤติการเงินภายในประเทศ การฟื้นตัวก็จะเร็วเป็นพิเศษ เช่น ไทยหลัง Subprime ปี 2008 ที่ในปีต่อมา หุ้นเราก็เริ่มฟื้นอย่างคึกคัก และในปี 2010 ก็สามารถกลับไปที่เดิมได้ (ขณะที่สหรัฐยังต้องใช้อีก 3 ปี) !!!

เพียงแต่ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในรอบนี้ กำลังจะยกระดับเป็น Global Recessions !!! ที่ “ทั้งโลก” ประสบภาวะนี้พร้อม ๆ กัน แม้บางประเทศจะยังพอขยายตัวได้ แต่ใน Global Recessions โลกโดยรวมมีขนาดเศรษฐกิจที่ลดลง !!!

เศรษฐกิจถดถอย

เหตุการณ์ในลักษณะนี้ เกิดขึ้นเพียง 5 ครั้งเท่านั้น ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา คือ

  • 1975 – วิกฤติน้ำมัน First Oil Shock
  • 1982 – หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยไปอย่างรวดเร็ว เพื่อสู้เงินเฟ้อ หลัง Second Oil Shock
  • 1991 – หลัง Gulf War และการปรับขึ้นของราคาน้ำมันโลกอีกรอบ
  • 2009 – หลังวิกฤติ Subprime
  • 2020 – ช่วงปิดเมืองพร้อม ๆ กันรอบแรกจากโควิด-19

ทุกรอบเกิด “เศรษฐกิจถดถอยพร้อม ๆ กัน ทั่วโลก” หรือ “Synchronized Recessions” ไม่ได้เฉพาะแต่ประเทศใดประเทศหนึ่ง

ที่น่ากังวลใจก็คือ จากช่วงแรก ๆ ที่คนออกมาพูดว่าประเทศโน้น ประเทศนี้ เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว สิ่งที่กำลังรอเราอยู่ในรอบนี้ กำลังยกระดับขึ้นเป็น Global Recessions อีกครั้ง

ถ้าลองคิดดู 1975 1982 1991 ปัญหาเริ่มมาจากราคาน้ำมันที่คุกคามทุกประเทศ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ราคาน้ำมันโลก ผสมผสานกับราคาอาหารโลก ส่งผลกระทบทุกคนพร้อม ๆ กัน นำไปสู่วิกฤตเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 30-40 ปี เกือบทุกประเทศ

ด้วยเหตุนี้ ธนาคารกลางประเทศต่างๆ จึงจำเป็นต้องใช้นโยบายเข้มงวด เพื่อทำสงครามกับเงินเฟ้อ ต้องใช้ยาแรงเป็นพิเศษ และจากนโยบายธนาคารกลางต่าง ๆ เหล่านี้ ตลาดจึงคาดการณ์ต่อไปว่า จะมีหลายประเทศที่เริ่มเข้าสู่ Recession (อย่างจริง ๆ จัง ๆ) ในช่วงปลายปีนี้ ต้นปีหน้า และ Recession อาจจะมาเร็วกว่าที่เราคิด หากวิกฤติท่อก๊าซในยุโรปลุกลาม

เศรษฐกิจถดถอย
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล

สอดรับกับนักวิเคราะห์จาก Nomura ที่คาดไว้ว่าจะมี 7 กลุ่มประเทศที่เผชิญกับปัญหา คือ สหรัฐ กลุ่มยูโร อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย แคนาดา ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

รับกับกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ IMF ที่ออกมาเตือนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

รับกับหัวหน้านักเศรษฐศาตร์ธนาคารโลก ที่ออกมาเตือนในเรื่องนี้เช่นกัน

และยิ่งจีนมีปัญหาภายใน การถดถอยของโลกรอบนี้ ก็จะไม่มีตัวช่วย

ทั้งหมดนี้ จะมีนัยยะไปต่อราคาพลังงานโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ อย่างที่เราเห็นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และจะมีนัยยะมายังประเทศไทยในช่วงต่อไป อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโลก

ทั้งหมดนี้ โชคดีที่เรายังมีเวลาอีกนิด ถ้าเราใช้เวลาที่เหลือ หยิบฉวยโอกาสที่เปิดขึ้น จากวิกฤติราคาอาหาร ราคาพลังงาน และจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ทั้งในเรื่องสินค้าเกษตร การส่งออกไปสหรัฐ การท่องเที่ยว การลงทุนในพลังงานทดแทน และความสนใจที่ทุกคนมีเพิ่มขึ้นกับ ASEAN เราก็จะพอผ่อนหนักเป็นเบา ผ่านไปได้ครับ

เศรษฐกิจถดถอย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo