Economics

‘กกร.’ นัดถกภาพรวมเศรษฐกิจไทยหลังเงินเฟ้อพุ่ง ยัน ‘คนละครึ่งเฟส 5’ ยังจำเป็น!

“กกร.” นัดถกภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2565 หลังของแพง-น้ำมันแพง ดันเงินเฟ้อพุ่ง แนะรัฐมุ่งบริหารงบประมาณและมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ยัน “คนละครึ่งเฟส 5” ยังจำเป็น!

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยจะมีการหารือภาพรวมเศรษฐกิจ การส่งออก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2565 ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขณะนี้เอกชนมีความกังวลต่อปัจจัยลบหลายด้านที่มีแนวโน้มจะกดดันให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นซึ่งจะสะท้อนไปยังราคาสินค้าปรับขึ้นต่อเนื่องอันจะมีผลให้เงินเฟ้อของไทยสูงขึ้นอีก ซึ่งจะบั่นทอนกำลังซื้อของคนไทยแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะรับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลได้เปิดการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ก็ตาม

เศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของไทยเดือนเมษายนสูงถึง 4.65% ซึ่งมาจากค่าพลังงานและราคาอาหารที่ปรับขึ้นเป็นหลัก ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงทรงตัวระดับสูงเนื่องจากมีข่าวสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมแบนน้ำมันรัสเซีย และหากประเมินการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนหลายฝ่ายต่างก็คาดว่าจะยืดเยื้อถึงปลายปีนี้หรือปีหน้า จึงทำให้มาตรการแซงชั่นต่าง ๆ ยังคงอยู่ต่อไปและอาจมีเพิ่มขึ้นอีกจึงจำเป็นต้องติดตามใกล้ชิด ดังนั้น จึงกังวลว่า ภาวะเช่นนี้จะยิ่งทำให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้นซึ่งทำให้กำลังซื้อลดลง

สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันของไทยมีทิศทางปรับขึ้นโดยเฉพาะดีเซล ที่รัฐขยับเพดานมาอยู่ที่ 32 บาท/ลิตรเมื่อ 1 พฤษภาคม และกำหนดไว้ไม่เกิน 35 บาท/ลิตร ซึ่งเพดานดังกล่าวทำให้ราคาจะปรับขึ้นอีกและยังไม่รวมกับมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 บาท/ลิตรเป็นเวลา 3 เดือนที่จะสิ้นสุด 20 พฤษภาคม จะหมดลงหากไม่ต่อจะทำให้ดีเซลขยับขึ้นอีก 3 บาท/ลิตร

“เห็นว่ารัฐควรจะขยายมาตรการดังกล่าวไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน ขณะเดียวกันค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดพ.ค.-ส.ค.65 ได้ปรับขึ้นเมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานต้องจ่ายถึง 4 บาท/หน่วย เหล่านี้ล้วนมีผลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากค่าพลังงาน” นายเกรียงไกร กล่าว

เศรษฐกิจไทย

นอกจากนี้ ราคาวัตถุดิบและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ปรับขึ้นจากผลกระทบรัสเซีย-ยูเครน ทั้ง ปุ๋ยเคมี อาหารสัตว์ เหล็ก แร่หายาก เซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) พลาสติก และอื่น ๆ ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างมีต้นทุนที่ปรับตัวสูงทำให้ผู้ประกอบการต้องทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าและมีแนวโน้มจะทยอยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์เหล่านี้ยังคงไม่ทุเลาลง

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ได้ขอร้องให้สมาชิกพิจารณาตรึงราคาสินค้าให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อน เนื่องจากหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ 1 พฤษภาคมแล้วจะทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวค่อย ๆ ดีขึ้นและจะทำให้เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวโดยหลายฝ่ายประเมินว่าจะมีเม็ดเงินที่เพิ่มเข้ามาจากมาตรการนี้ 500,000-600,000 ล้านบาท

เศรษฐกิจไทย

ขณะเดียวกัน ยังคงต้องติดตามการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร หลังมีการเรียกร้องจากสหภาพแรงงานต่าง ๆ เนื่องจากอัตราค่าครองชีพสูงขึ้นทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย โดยหากขยับขึ้นก็จะเป็นแรงกดดันต่อต่อต้นทุนการดำเนินงานของภาคการผลิตและธุรกิจต่าง ๆ อีกในอนาคต

ดังนั้น มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องมุ่งเน้นบริหารงบประมาณและมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อให้มากขึ้นในระยะสั้น รวมไปถึงการวางมาตรการระยะกลางและยาวที่ต้องมุ่งเน้นการสร้างงานทั้งการส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาด้านการเกษตร และอื่น ๆ ในท้องถิ่นที่จะสร้างรายได้ให้กับประชาชนแบบยั่งยืน

“มาตรการด้านการเงินในการกระตุ้นกำลังซื้อเช่น คนละครึ่ง เหล่านี้ระยะสั้นจำเป็นต้องมีแต่ระยะกลางและยาวเราต้องมองความยั่งยืนด้วยการสร้างงาน สร้างรายได้เพิ่มให้กับประชาชน” นายเกรียงไกร กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo