Economics

ส่งออก ‘ทองคำ’ เก็งกำไร ดันมูลค่า ‘อัญมณี’ มี.ค.พุ่ง 3,408.93 ล้านดอลล์ โต 341.39%

ส่งออกอัญมณีเดือนมีนาคม พุ่ง 739.13 ล้านดอลลาร์ โต 37.01% หากรวมทองคำยอดพุ่ง 3,408.93 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 341.39% เหตุส่งออกไปเก็งกำไร ส่วนยอดรวม 3 เดือน มูลค่า 1,898.03 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 39.96% หากรวมทองคำ มูลค่า 5,486.58 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 203.93% คาดแนวโน้มยังดีต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจคู่ค้าฟื้น มีการเปิดประเทศ แต่ต้องจับตาสงคราม เงินเฟ้อ และโควิด-19

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเผยว่า การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีมูลค่า 739.13 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37.01% ยังคงฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หากรวมทองคำ มีมูลค่า 3,408.93 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 341.39% และยอดรวม 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 1,898.03 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39.96% และหากรวมทองคำ มีมูลค่า 5,486.58 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 203.93%

shutterstock 783884539

ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขยายตัวเพิ่มขึ้น มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ ที่ทยอยเปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น และยังมีการขยายตัวของการลงทุน เพิ่มระดับสินค้าคงคลัง ที่ลดลงไปก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ยังมีการส่งออกทองคำไปเก็งกำไรจากราคาตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการส่งออกทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งยอดรวม 3 เดือนมีมูลค่า 3,588.56 ล้านดอลลาร์ขยายตัวสูงถึง 699.05%

สำหรับตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ สหรัฐ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย เพิ่ม 46.48% อินเดีย เพิ่ม 113.98%  และ ฮ่องกง ซึ่งปีที่ผ่านมา การส่งออกชะลอตัวมาโดยตลอด กลับมาส่งออกได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 14.77% เป็นการเพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน

เยอรมนี เพิ่ม 7.97% สหราชอาณาจักร เพิ่ม 88.29% สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 82.14% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพิ่ม 21.25% เบลเยี่ยม เพิ่ม 29.45% อิตาลี เพิ่ม 129.87% และญี่ปุ่น เพิ่ม 11.22%

6271fb280cdc0
สุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย

ทั้งนี้ สินค้าสำคัญที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องประดับเงิน เพิ่ม 13.98% เครื่องประดับทอง เพิ่ม 42.02% เพชรก้อน เพิ่ม 3.11 % เพชรเจียระไน เพิ่ม 70.90% พลอยก้อน เพิ่ม 27.41% พลอยเนื้อแข็งเจียระไน เพิ่ม 48.17% พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพิ่ม 50.28% เครื่องประดับเทียม เพิ่ม 37.62% เศษหรือของที่ใช้ไม่ได้ทำจากโลหะมีค่า เพิ่ม 63.48% ส่วนเครื่องประดับแพลทินัม ลด 19.78%

นายสุเมธ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริง ยังคงขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของคู่ค้าสำคัญที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และคาดว่าแนวโน้มต่อไป จะยังดีขึ้น เพราะขณะนี้ หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ มีการเปิดประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้มีการเดินทาง มีการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการซื้อสินค้าอัญมณี และเครื่องประดับ

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังสู้รบต่อเนื่อง และเป็นแรงกดดันทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าหลายกลุ่มสูงขึ้น และจะมีผลทำให้เงินเฟ้อในประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยสูงขึ้น อันจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย รวมทั้งต้องติดตามผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ยังไม่คลี่คลาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo