คจร. ไฟเขียวแผนพัฒนารถไฟฟ้ากรุงเทพฯ-ปริมณฑล เฟส 2 ปี 61-80 “ไจก้า”ชงเก็บค่าจอดรถย่านกลางเมือง-ห้ามพนักงานบ้านห่างออฟฟิศ 2 กม. ขับรถมาทำงาน ช่วยหนุนระบบขนส่งสาธารณะ
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (3 ม.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบผลการศึกษาการจัดทำทิศทางและนโยบายการพัฒนาแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (M-Map 2 Blueprint) ระยะ 20 ปี ระหว่างปี 2561-2580 ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสงคราม
สำหรับแผน M-MAP 2 มีวิสัยทัศน์ว่า “มุ่งสร้างสังคมการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน” ประกอบด้วย 5 นโยบายหลัก ได้แก่ 1.เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดในพื้นที่ศูนย์กลางเมืองกรุงเทพฯ 2.เพื่อส่งเสริมและพัฒนาโครงข่ายรถไฟในภาพรวมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้มีประสิทธิภาพ 3.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงสถานี 4.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และ 5.เพื่อเพิ่มการเข้าถึงสนามบิน (Global gateways)
แผนการดำเนินงาน M-MAP 2 แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย
• แผนระยะสั้นดำเนินการ ปี 2561-2565
• แผนระยะกลาง ดำเนินการ ปี 2566-2570
• แผนระยะยาว ดำเนินการปี 2571-2580
ทั้งนี้ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งศึกษาแผน M-Map 2 ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ให้ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐไทยในการออกมาตรการจูงใจประชาชน เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ระบบการขนส่งทางรางมากขึ้น โดยอ้างอิงประสบการณ์จากที่มีการดำเนินการในประเทศญี่ปุ่น เช่น
1.ส่งเสริมให้ประชาชนเห็นว่าระบบรางเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ใบรับรอง แก่บริษัทที่สนับสนุนให้พนักงานใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และให้ความรู้ในเรื่องการใช้ระบบขนส่งสาธารณะในโรงเรียน
2.สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้พนักงานแต่ละบริษัทเดินทางมาทำงานโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และห้ามขับรถยนต์มาทำงานสำหรับพนักงานที่อาศัยอยู่ในรัศมีไม่เกิน 2 กิโลเมตร จากที่ทำงาน
3.ลดค่าโดยสารในช่วงเวลาไม่เร่งด่วน เมื่อใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์
4.ปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะให้มีความปลอดภัยในการใช้บริการ เช่น การใช้บริการรถไฟฟ้าของเด็กนักเรียน เมื่อเด็กนักเรียนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าด้วยบัตรรถไฟฟ้าระบบจะส่งข้อความผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการใช้บริการ
5.กำหนดมาตรการจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยเพิ่มค่าจอดรถในย่านใจกลางเมือง กำหนดวันปลอดรถยนต์ (Car free day) และเพิ่มอัตราภาษีรถยนต์
