Economics

ด่วน! 7 รัฐมนตรีภูมิใจไทย ‘บอยคอต’ ประชุมครม.วันนี้ – ค้านมหาดไทยขยายสัมปทานสายสีเขียว

รถไฟฟ้าสายสีเขียว 7 รัฐมนตรีภูมิใจไทย ตบเท้ายื่นหนังสือลาประชุม ครม.  แสดงออกคัดค้านไม่เห็นด้วย หลัง มท. 1 ดันขยายสัญญาสัมปทานสายสีเขียว เข้า ครม. วันนี้ เหตุ! มหาดไทย ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และ หลักธรรมาภิบาล แถมส่วนต่อขยายสายสีเขียวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟม.โดยสมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในการประชุม ครม. วันนี้ (8ก.พ.) รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย 7 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย,นายพิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระทรวงคมนาคม

รถไฟฟ้าสายสีเขียว

รถไฟฟ้าสายสีเขียว 7 รัฐมนตรียื่นหนังสือลาประชุมครม.

ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุม ครม. เนื่องจากติดภาระกิจ และแสดงออกถึงความเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกรณีกระทรวงมหาดไทย เสนอวาระเพื่อพิจารณา ขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปเป็นปี 2602 แลกกับเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ ประกอบกับมองว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และ หลักธรรมาภิบาล หากมีการอนุมัติวาระดังกล่าวจะส่งผลทางด้านกฎหมายในอนาคตได้

รถไฟฟ้าสายสีเขียว

เรื่องดังกล่าวทาง กระทรวงคมนาคม ได้แสดงความเห็นคัดค้านต่อการขยายสัญญาสัมปทานมาโโยตลอด พร้อมเสนอความเห็นเพิ่มเติม เข้า ครม. ทุกครั้งที่จะมีการเสนอ โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นหลัก คือ 1. ประเด็นความครบถ้วนตามหลักการของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562

2. ประเด็นการคิดค่าโดยสารที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการเพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดได้ต่ำกว่า 65 บาท

3. ประเด็นการใช้สินทรัพย์ของรัฐที่ได้รับโอนจากเอกชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาให้เกิดความถ่องแท้ถึงการใช้สินทรัพย์ว่ารัฐควรได้ประโยชน์จากการขยายสัญญาสัมปทานเป็นจำนวนเท่าไร อย่างไร จนกว่าจะครบอายุสัญญา

4. ประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย  เกิดขึ้นจากกรณี กทม.ได้ทำสัญญาจ้าง BTSC เดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และ ส่วนต่อขยายที่ 2 ไปจนถึงปี 2585 และได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนั้นจึงสมควรรอผลการไต่สวนข้อเท็จจริงก่อนเพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยกระทรวงคมนาคมได้ขอให้กทม.ชี้แจงทั้ง 4 ประเด็นนี้ให้ชัดเจนก่อน

ล่าสุดในการประชุม ครม. วันนี้ทางกระทรวงคมนาคมยังได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมเสนอเข้าไปประกอบด้วย ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลที่ กทม. จัดทำเพิ่มเติมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริงที่ทำให้การวิเคราะห์ของกระทรวงคมนาคมแตกต่างไปจากเดิม โดยเฉพาะในประเด็น

1. การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในสิ่งก่อสร้างและที่ดินตลอดแนวโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วงยังคงเป็นของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)เนื่องจากยังไม่มีการโอนไปยัง กทม. เนื่องจากยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยสิ่งปลูกสร้าง

2. การคำนวณค่าโดยสาร, และการรองรับระบบตั๋วร่วม รวมถึงความชัดเจนของประเด็นข้อกฎหมาย ที่ทาง กทม.ยืนยันว่าจะเข้าดำเนินการตั๋วร่วมแต่จะไม่ยอมลงทุนเอง

รถไฟฟ้าสายสีเขียว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight