Economics

โควิดยืดเยื้อ ทำครัวเรือนไทยหนี้พุ่ง ยอดหนี้คงค้างแตะ 14.35 ล้านล้าน!!

“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” เผยโควิดยืดเยื้อ ทำครัวเรือนไทยหนี้พุ่ง ชี้ไตรมาส 3/64 ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ที่ 14.35 ล้านล้านบาท ขยับขึ้นราว 4.2% คาดปี 65 อยู่ระดับ 90-92% ต่อจีดีพี

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนล่าสุดสะท้อนว่า แม้ครัวเรือนไทยยังคงก่อหนี้เพิ่ม แต่ก็มีสัญญาณระมัดระวังมากขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยในไตรมาส 3/64 ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ที่ 14.35 ล้านล้านบาท ขยับขึ้นราว 4.2% (YoY) ชะลอลงเมื่อเทียบกับ 5.1% (YoY) ในไตรมาส 2/2564

หนี้ครัวเรือน

ระดับหนี้ครัวเรือนขยับขึ้น

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ระดับหนี้สินของครัวเรือนที่ขยับขึ้นในไตรมาส 3/2564 ใกล้เคียงกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในช่วงไตรมาส 3/2564 ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 89.3% เท่ากับในไตรมาส 2/2564 โดยหนี้สินของภาคครัวเรือนส่วนใหญ่จะยังคงเป็นหนี้บ้าน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ลักษณะการก่อหนี้ของครัวเรือนในไตรมาส 3/2564 แตกต่างจากช่วงไตรมาสก่อน ๆ ตรงที่มีสัญญาณของการก่อหนี้เพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่อง และ/หรือรองรับรายจ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขยับขึ้นของหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้เพื่อการประกอบอาชีพตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกสาม

หนี้ครัวเรือน

แนวโน้มหนี้ครัวเรือนไทย

สำหรับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนไทย สถานการณ์การระบาดที่ยืดเยื้อต่อเนื่อง อาจทำให้ประชาชนรายย่อยและภาคครัวเรือนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการก่อหนี้เพิ่มเติม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่า แม้ในปี 65 จะยังคงเห็นยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็น่าจะเป็นอัตราการเติบโตในระดับที่ใกล้เคียงกับเศรษฐกิจมากขึ้น

ดังนั้น จึงยังคงตัวเลขประมาณการสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในปี 2565 ไว้ที่กรอบ 90-92% ต่อจีดีพี โดยสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีมีโอกาสขยับขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์ในปี 2564 ที่ 90.5% อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์โควิดอย่างใกล้ชิด ส่วนโจทย์เฉพาะหน้าของครัวเรือนไทยที่มีภาระหนี้ ยังคงเป็นการดูแลสมดุลระหว่างรายจ่ายแลรายได้เพื่อคงความสามารถในการชำระหนี้ ตลอดจนการเร่งติดต่อสถาบันการเงินเพื่อรับมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมเมื่อประสบปัญหา เช่น การปรับโครงสร้างหนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK