Economics

‘บิ๊กตู่’มอบรถเมล์เอ็นจีวีของขวัญปีใหม่สำเร็จ!

นายกฯ มอบ “รถเมล์เอ็นจีวี”เป็นของขวัญปีใหม่สำเร็จ ล็อตแรก 489 คัน ทยอยจัดซื้อให้ครบ 3,000 คัน  “ย้ำมาทำงาน ไม่ได้มาให้คนรัก”  

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างพิธีเปิดตัวรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์เอ็นจีวี)ใหม่ ณ ห้องประชุมไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ในวันนี้ (20 ธ.ค.) โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,000 คนว่า รัฐบาลได้มอบรถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489 คัน เป็นของขวัญปีใหม่ให้คนกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ หลังจากการมอบของขวัญในปีก่อนๆ ตั้งท้องและแท้งมาหลายรอบแล้ว โดยจากนี้ต้องทำให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แข็งแรง อยู่ได้ และทยอยจัดหารถเมล์ที่เหลือเพื่อให้ครบทั้งหมด 3,000 คัน

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“วันนี้ผมมาทำงาน ไม่ได้มาเพื่อให้คนรัก แต่ผมทำในสิ่งที่ต้องทำทั้งหมด ประเทศไทยก็ต้องแก้ไขปัญหาแบบนี้ เพราะฉะนั้นไม่อยากให้คิดว่าเดี๋ยวดีกว่า ต้องถามว่าแล้วจะดียังไง ถามว่าซื้อรถ 3,000 คัน จะเอาเงินจากไหน หรือจะให้มากกว่าที่ให้วันนี้ ผมไม่ได้พูดทางการเมืองเลยนะ ผมพูดในหลักการว่าประเทศไทยจะเดินหน้ายังไง เพื่อใคร” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขสมก. ได้ดำเนินโครงการจัดซื้อรถเมล์ปรับอากาศเอ็นจีวี จำนวน 489 คัน ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการองค์การ เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพบริการ และเพื่อนำรถดังกล่าว มาวิ่งให้บริการประชาชนทดแทนรถเมล์เดิมที่มีสภาพเก่า เนื่องจากมีอายุการใช้งานหลายปี

รถเมล์เอ็นจีวี

โดยเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ขสมก.ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาจำนวน 489 คัน กับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO นำโดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง ขสมก.มีแผนตรวจรับ และบรรจุรถโดยสาร ลงในเส้นทางเดินรถ จำนวน 26 เส้นทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ตรวจรับรถงวดที่ 1 จำนวน 100 คัน ซึ่ง ขสมก.ได้นำรถไปวิ่งให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2561 ในเส้นทางเดินรถ สาย 20, 21, 37, 105, 138 และสาย 140
2. ตรวจรับรถงวดที่ 2 จำนวน 100 คัน ซึ่ง ขสมก.ได้นำรถไปวิ่งให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561 ในเส้นทางเดินรถ สาย 23, 26, 60, 142,145, 168, 511 และสาย 514
3. ตรวจรับรถงวดที่ 3 ส่วนที่ 1 จำนวน 50 คัน โดยจะนำรถไปวิ่งให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ในเส้นทางเดินรถ สาย A1, A2, A3 และสาย A4
4. ตรวจรับรถงวดที่ 3 ส่วนที่ 2 จำนวน 50 คัน โดยจะนำรถไปวิ่งให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ในเส้นทางเดินรถ สาย 26, 129, 168, 510 และสาย 522
5. ตรวจรับรถงวดที่ 4 (งวดสุดท้าย) จำนวน 189 คัน ซึ่ง ขสมก.จะดำเนินการตรวจรับ ประมาณกลางเดือน มีนาคม 2562 และจะนำรถไปวิ่งให้บริการประชาชน ในเส้นทางเดินรถ สาย 23, 59, 60, 76, 102, 129, 140, 141, 142, 145, 168, 510, 511, 514 และสาย A2

รถเมล์เอ็นจีวี

อย่างไรก็ตามคาดว่าเมื่อ ขสมก.ได้รับรถโดยสารใหม่ ครบทั้ง 489 คันมาวิ่งให้บริการ จะช่วยสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจให้กับประชาชน อีกทั้งจะช่วยยกระดับคุณภาพบริการ ให้มีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสากล นำไปสู่การสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน

ทั้งนี้ รถเมล์เอ็นจีวีที่ ขสมก.ดำเนินการจัดซื้อในครั้งนี้ เป็นรถโดยสารประเภทชานต่ำ ยี่ห้อ BONLUCK ขนาด 12 เมตร 35 ที่นั่ง มีการออกแบบในลักษณะUniversal Design เพื่อให้คนพิการและผู้สูงอายุ สามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกปลอดภัย มีเครื่องยนต์ขนาด 250 แรงม้าได้รับมาตรฐานตามข้อกำหนดประชาคมเศรษฐกิจยุโรป และสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ระบบเบรก ABS ระบบรองรับน้ำหนักแบบ Air Suspension พร้อมระบบปรับลดระดับความสูงของตัวรถ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ถังก๊าซ จำนวน 9 ใบได้รับมาตรฐาน ISO 11439 พร้อมชุดควบคุมระบบก๊าซและอุปกรณ์ ได้รับมาตรฐานตามข้อกำหนดคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งชาติยุโรป

รถเมล์เอ็นจีวี

ภายในห้องโดยสารบุด้วยฉนวนป้องกันความร้อนและเสียงรบกวน เก้าอี้โดยสารแบบปกติ จำนวน 31 ที่นั่ง และแบบพับได้ จำนวน 4 ที่นั่ง บุด้วยฟองน้ำอย่างหนา ผลิตจากวัสดุไม่ลามไฟ ทำให้นั่งสบายขณะใช้บริการ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ มีการติดตั้งป้ายไฟดิจิตอลบอกเส้นทางขนาดใหญ่ เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน กล้อง CCTV จำนวน 5 จุด เพื่อให้พนักงานขับรถสามารถดูแลผู้ใช้บริการได้อย่างทั่วถึง ทางลาดแบบพับเก็บได้ เพื่อให้คนพิการเข็นรถวีลแชร์ขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวก ปลอดภัย พื้นที่จอดรถวีลแชร์ จำนวน 2 คัน พร้อมที่ล๊อคล้อ และกริ่งสัญญาณหยุดรถสำหรับคนพิการ

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบ GPS เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบพิกัดตำแหน่งของรถโดยสาร ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และในอนาคตจะติดตั้งระบบ WiFi เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ทุกที่บนท้องถนน พร้อมติดตั้งระบบ E-Ticket เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และระบบตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม)

Avatar photo