Economics

‘GULF’ เผยคำตัดสิน ‘ศาลปกครองสูงสุด’ ให้ ‘กระทรวงพลังงาน’ เดินหน้าโครงการ ‘IPP’

“GULF” แจ้งตลาด คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ให้กระทรวงพลังงาน เดินหน้า โครงการ IPP ปิดฉากการฟ้องร้อง ที่เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 

บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)  แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันนี้ (15 ธ.ค.) ถึงผลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เรื่องการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 5,300 เมกะวัตต์ ของบริษัท ว่า ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษาล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.)  ให้กระทรวงพลังงาน ยกเลิกหนังสือของกระทรวง ที่มีถึงสำนักงานคณะกรรมการ BOI ในการให้ชะลอการสนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของโครงการของผู้ฟ้องคดี และให้กระทรวงพลังงานแจ้งสำนักงานคณะกรรมการ BOI ทราบ ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษา

Gulf SRC 1

รวมถึง ห้ามกระทรวงพลังงานนำผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการประมูลการรับซื้อไฟฟ้าของโครงการดังกล่าว ไปใช้เจรจากับผู้ฟ้องคดี เพื่อยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอีกต่อไป ซึ่งคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวถือเป็นที่สุด

อนึ่ง บริษัท อินดิเพนเดนท์ เพาเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (IPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้น 70% ได้เข้าร่วมประมูลคัดเลือกผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ประจำ ปี 2555 (โครงการ IPP) ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า ติดตั้ง 5,300 เมกะวัตต์ และเป็นผู้ชนะการประมูล

IPD ได้ดำเนินการให้บริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด (GSRC) และบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ IPD ถือหุ้นทั้งหมด เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ต่อมาในปี 2557 คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.)ได้มีมติให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เข้าตรวจสอบ ผลการประมูลของโครงการ IPP เนื่องจากมีการร้องเรียนว่า ขั้นตอนการประมูลคัดเลือกโครงการ IPP ไม่เป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ระเบียบของกกพ. และเอกสารข้อกำหนดในการเสนอราคา (RFP)

ในการนี้ กกพ. ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบ เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานผล รวมถึงส่งผลการตรวจสอบดังกล่าวให้ คตร. ทราบ ซึ่งต่อมา คตร. ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม

กระทรวงพลังงานได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการประมูลโครงการ IPP และได้เชิญบริษัทเข้าประชุม เพื่อขอเจรจายกเลิกโครงการโรงไฟฟ้า GPD ที่ชนะการประมูล และได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. แล้ว

อีกทั้ง ยังได้มีหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (คณะกรรมการ BOI) ให้ชะลอการสนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของโครงการโรงไฟฟ้าของ GSRC และ GPD ที่ ชนะการประมูลทั้งสองโครงการ

GSRC 4

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 IPD GSRC และ GPD (รวมเรียกว่า “ผู้ฟ้องคดี”) ได้ยื่นฟ้อง กกพ.  สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) กระทรวงพลังงาน และ คณะกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง (รวมเรียกว่า “ผู้ถูกฟ้องคดี”) ต่อศาลปกครองกลาง

เนื่องจากผู้ฟ้องคดีเห็นว่า การตรวจสอบการประมูลคัดเลือกโครงการ IPP ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ เป็นบุคคลผู้มีส่วนได้เสีย และข้อมูลที่นำมาใช้ประกอบการตรวจสอบพิจารณานั้นเป็นข้อมูลที่ถูกบิดเบือนจากความจริง การตรวจสอบดังกล่าวทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย จากการที่มีอุปสรรคไม่สามารถดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าต่อไปได้

ทั้งนี้ ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งห้ามผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินการตรวจสอบ หรือนำผลการตรวจสอบการประมูลโครงการ IPP ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ไปใช้หรืออ้างอิง

วันที่ 8 ธันวาคม 2559 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีอำนาจดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย แต่ได้กระทำนอกเหนือเกินขอบเขตอำนาจ ในการใช้ผลการตรวจสอบดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย และให้กระทรวงพลังงานแจ้งยกเลิกหนังสือที่ส่งไปถึง คณะกรรมการ BOI เกี่ยวกับการชะลอการพิจารณาอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติการส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ฟ้องคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 4 มกราคม 2560 กระทรวงพลังงานได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง เนื่องจากกระทรวงพลังงานเห็นว่า การกระทำของกระทรวงพลังงานไม่ได้เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี และผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในวันที่ 20 มิถุนายน 2560

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo