“คมนาคม” ยืนยัน ไม่มีแผนทุบทิ้งหัวลำโพง เปิดแผนลดบทบาท จ่อปรับขบวนรถชานเมืองบริการเหลือ 22 ขบวน เริ่ม 23 ธันวาคมนี้ ดัน “สถานีกลางบางซื่อ” เป็นศูนย์กลางเดินทางใหม่
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเวทีรับฟังควดามคิดเห็นในหัวข้อ “อนาคตสถานีหัวลำโพงประวัติศาสตร์คู่การพัฒนา” โดยมีผู้ร่วมเสวนามาจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้แทนกระทรวงคมนาคม รฟท. นักวิชาการ และภาคประชาสังคม
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาบริหารจัดการเดินรถ และการจัดการรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางบางซื่อ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งที่มีการประชุม ไม่เคยมีการพูดว่าจะปิดหัวลำโพง แต่เป็นเพียงการลดบทบาทเท่านั้น
โดยจะยังมีการเดินรถขบวนชานเมือง เข้าสูหัวลำโพงอยู่ ส่วนรถทางไกลจะสิ้นสุดขบวนที่สถานีกลางบางซื่อ กระทรวงคมนาคมยืนยันว่า ได้เตรียมพร้อมการจัดการเดินรถ และความพร้อมด้านอื่นมาเป้นระยะเวลา 7 เดือน แต่ก็จะนำผลการเสวนาวันนี้ ไปประกอบการพิจารณา ก่อนถึงวันที่ 23 ธันวาคม
ขณะที่ ดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม กล่าวว่าตามแผนการลดบทบาทหัวลำโพง จะลดจำนวนขบวนรถไฟ จาก 128 ขบวน เหลือ 22 ขบวน เฉพาะขบวนรถไฟชานเมืองเท่านั้น เป็นไปตามแผนแม่บทเพื่อตอบโจทย์ การแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งปัจจุบันมีจุดตัด 7 จุด หากมีขวบนรถเข้าหัวลำโพง จะมีการปิดเครื่องกั้นกว่า 800 ครั้ง เมื่อลดลงเหลือ 22 ขบวน จะลดจุดตัดลงไปถึง 84%
ขณะที่ นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ รฟท.กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ เต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะนี้พร้อมแล้วที่จะรองรับการเดินทางของรถไฟระบบอื่น เช่น รถไฟทางไกลที่จะมาสิ้นสุดที่นี่ และได้เตรียมระบบเดินทางต่อเชื่อมไว้รองรับการเดินทางของประชาชนแล้ว
นางไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการ รฟท. และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด กล่าวว่า เอสอาร์ทีฯ ตั้งตามมติ ครม. โดย รฟท.ถือหุ้น 100% เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ของ รฟท.ที่ไม่ใช่รางรถไฟ ยืนยันว่า พร้อมที่จะเข้าบริหารที่ดินทุกแปลงของการรถไฟ เพื่อให้เกิดรายได้ และผลตอบแทนกับการรถไฟฯ
ส่วนพื้นที่หัวลำโพง 120 ไร่ ในอนาคตจะพัฒนาตามแนวทางทีโอดี ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อผู้ใช้บริการ และชุมชนโดยรอบ ทั้งพัฒนาเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ปรับทัศนียภาพ เพิ่มพื้นที่สีเขียว พื้นที่เชื่อมต่อการเดินทาง สร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ และสร้างพื้นที่เชิงวัฒนธรรม รวมทั้งพื้นที่เชิงพาณิชย์ เป็นโมเดลที่พัฒนาทุกพื้นที่ของ รฟท. ซึ่งผลพลอยได้คือรายได้กลับมาให้กับ รฟท.
“ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่มีการทุบสถานีหัวลำโพงเด็ดขาด แนวทางบริหารพื้นที่ 120 ไร่ จะเป็นรูปแบบทีโอดี อนุรักษ์พื้นที่ประวัติศาสตร์ 5 ส่วนสำคัญ คือ อนุสาวรีย์ช้างสามเศียร สถานีรถไฟหัวลำโพง อนุสรณ์ประถมฤกษ์ ตึกบัญชาการการรถไฟ และตึกแดง เพราะถือเป็นสมบัติของแผ่นดินที่มีค่า เราจะซ่อมแซมให้คงสภาพอยู่ดี และคงแนวทางดำเนินการให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน”
ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 90 ไร่ เช่น พวงราง ที่จอดรถ โรงซ่อม โรงจอดรถไฟ เมื่อย้ายการดำเนินการออกไปสถานีกลางบางซื่อ ไม่มีรถไฟให้บริการ ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร หากไม่พัฒนาก็จะเสื่อมโทรม
การดำเนินการของเอสอาร์ทียังมีเป้าหมายให้สถานีหัวลำโพงเป็นฮับการเดินทางในเมือง เชื่อมต่อการเดินทางไปบางซื่อ ที่จะเป็นฮับเดินทางระยะไกล การพัฒนาทีโอดี จะเน้นการรักษาวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของรถไฟให้ชัดเจน สร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ เสริมวัฒนธรรมคนไทยและความร่วมสมัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ และพัฒนาให้มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รฟท. ยืนยัน รถไฟชานเมือง ยังวิ่งถึง ‘หัวลำโพง’ ตามปกติ
- ‘ศักดิ์สยาม’ จี้การรถไฟฯ เร่งแผนพัฒนา ‘บางซื่อ-หัวลำโพง’ ปั้น ‘ฮับคมนาคมกลางเมือง’
- สร้างตำนานหน้าใหม่ สถานีรถไฟหัวลำโพง สู่ศูนย์คมนาคมกลางเมือง-แหล่งท่องเที่ยว