การทางพิเศษฯ เจรจา BEM ขอยืดเวลาจ่าย ‘ค่าโง่โทลเวย์’ 4.2 พันล้านบาท จากกำหนดเดิมวันที่ 19 ธ.ค. นี้
นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ. อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทและคดีฟ้องกันระหว่างกัน ซึ่งเกิดขึ้นหลายกรณี
การเจรจาดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 เดือนตุลาคม 2561 ที่เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐ ที่มีข้อพิพาทตามสัญญาอนุญาโตตุลาการหรือถูกฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครองเป็นคดีเดียวหรือหลายคดีในประเด็นเดียวกันหรือเกี่ยวเนื่องกัน เช่น กรณีของการทางพิเศษฯ อาจดำเนินการเจรจากับคู่พิพาท เพื่อบรรเทาความเสียหายของรัฐ รักษาผลประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และให้เกิดความเป็นธรรมแก่ราษฎร โดยให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ชอบด้วยกฎหมาย และคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
สำหรับกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้การทางพิเศษฯ จ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยรวม 4,200 ล้านบาท แก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BEM ภายใน 90 วัน เนื่องจากกรมทางหลวง (ทล.) ได้ก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ – รังสิต แข่งขันกับทางพิเศษ (ทางด่วน) สายบางปะอิน – ปากเกร็ด ของ NECL นั้น
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การทางพิเศษฯ กำลังเร่งเจรจากับ BEM เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เป็นอันดับแรกๆ โดยการทางพิเศษฯ อาจจำเป็นต้องเจรจาขอยืดระยะเวลาการชำระค่าชดเชยมูลค่า 4,200 ล้านบาทออกไป จากวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ซึ่งเบื้องต้น BEM ก็มีท่าทีให้ความร่วมมือ แต่ก็ต้องดูข้อสรุปอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การทางพิเศษฯ ยังไม่ได้ตัดแนวทางแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอีก 2 ทางเลือกออกไป คือ 1. การทางพิเศษฯ จะนำโครงการทางด่วนขั้นที่ 2 มาบริหารเองและจะจ่ายเงินค่าฟ้องร้องคดีในชั้นศาลเองทั้งหมด และ 2. การทางพิเศษฯ จะเปิดประมูลทางด่วนขั้นที่ 2 เป็นการทั่วไป แต่ผู้ชนะการประมูลต้องรับทรัพย์สินและภาระหนี้สินจากฟ้องร้องคดีไปด้วย โดยการทางพิเศษฯ จะพิจารณาทางเลือกทั้ง 2 ข้อไปพร้อมกันด้วย เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อรัฐ
ทั้งนี้ บอร์ดการทางพิเศษฯ จะนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยถ้าหากอนุกรรมการแก้ไขปัญหาฯ สรุปผลการเจรจา วงเงิน และการยืดระยะเวลาการจ่ายค่าชดเชยได้ ก็จะเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดและ ครม. พิจารณาต่อไปตามขั้นตอน