Economics

‘กพช.’ ไฟเขียวลดส่งเงินเข้า ‘กองทุนอนุรักษ์พลังงาน’ ขยายกรอบซื้อไฟฟ้าจากลาว

กพช. เห็นชอบลดเงินส่งเข้ากองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 0.05 บาทต่อลิตร พร้อมทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 63-67 และขยายกรอบการรับซื้อไฟฟ้าจากลาว

วันนี้ (5 พ.ย.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า  สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน  ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จึงได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

โดยปรับลดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันดีเซลหมุนช้า และน้ำมันเตา ในอัตรา 0.005 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี และอัตรา 0.05 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 2 ปี มีผลทันที หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา

shutterstock 398041306

อีกทั้งยังเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2565-2567 ปีละ 4,000 ล้านบาท และให้คณะกรรมการกองทุน มีอำนาจปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุน รวมถึง การจัดสรรเงินตามแผนและกลุ่มงานต่าง ๆ ได้ตามความจำเป็น และเหมาะสมภายในวงเงินรวม 12,000 ล้านบาท

ที่ประชุม กพช. เห็นชอบให้ทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2563 – 2567 เพื่อรับรองกรณีเปลี่ยนแปลงวงเงินกู้ โดยให้การบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องมีจำนวนเงินเพียงพอ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้ต้องไม่เกิน จำนวน 40,000 ล้านบาท ตามมาตรา 26 แห่ง พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562

การใช้จ่ายเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้จ่ายได้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานกองทุนน้ำมัน หรือการบริหารกองทุนน้ำมันและกิจการอื่น ที่เกี่ยวกับ หรือเกี่ยวเนื่องกับ การจัดการกิจการของกองทุนน้ำมัน การทบทวนแผนรองรับวิกฤติครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

shutterstock 1785976886

ทบทวนราคา LNG

พร้อมกันนี้ ที่ประชุม กพช. ยังเห็นชอบให้ ทบทวนราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Price Review) จากสัญญาซื้อขาย LNG ระยะยาว บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี เนื่องจากสถานการณ์ตลาด LNG ในปัจจุบัน มีแนวโน้มตึงตัวเพิ่มขึ้น

ประกอบกับเงื่อนไขสัญญาระหว่าง บริษัท ปตท. และ ปิโตรนาส นั้น ก็ให้คู่สัญญาเปิดเจรจา Price Review ได้ในระหว่างปีที่ 5 ของสัญญา ปตท. จึงขอเจรจาในปี 2564 เพื่อปรับลดราคา LNG โดยได้ข้อสรุปผลการเจรจา LNG Price Review สามารถปรับลดสูตรราคา LNG SPA ลงเฉลี่ย -7%  สามารถลดต้นทุนการจัดหา LNG ลงประมาณ 900-1,000 ล้านบาทต่อปี หรือรวมประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท ในปี 2565 – 2569 หรือลดต้นทุนค่า Ft ประมาณ 0.42 สตางค์ ต่อหน่วย และกพช.มอบหมายให้ ปตท. เสนอสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญาต่อไป

ที่ประชุม กพช. ยังเห็นชอบให้บรรจุโครงการ LNG Terminal พื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 [T-3] ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง ซึ่งมีกำลังการแปรสภาพ LNG เป็นก๊าซ 10.8 ล้านตัน ต่อปี (ขยายได้ถึง 16 ล้านตันต่อปี) ไว้ในแผนโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติ เพื่อความมั่นคงของประเทศ

โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการ ตามแผนดำเนินงานของ EEC และสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ตลอดจนดำเนินการกำกับดูแลและบริหารจัดการ LNG Terminal ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติ เพื่อรองรับการจัดหา LNG ของประเทศ ให้มีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคง เหมาะสม และเป็นธรรมต่อทั้งผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ และผู้ใช้พลังงาน ทั้งรายเก่าและรายใหม่ รวมถึงการสร้างระบบเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใส ทันสถานการณ์ และสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน

shutterstock 1270639306

ขยายกรอบซื้อไฟฟ้าจากลาว

นายสุพัฒนพงษ์ เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม กพช. ได้เห็นชอบอัตรา ค่าไฟฟ้า และการขยายกรอบความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้า ระหว่างไทยกับลาว ดังนี้

  • โครงการน้ำงึม 3 ในอัตราค่าไฟฟ้าที่ 2.8934 บาทต่อหน่วย
  • โครงการปากแบง ในอัตราค่าไฟฟ้าที่ 2.7935 บาทต่อหน่วย
  • โครงการปากลาย ในอัตราค่าไฟฟ้าที่ 2.9426 บาทต่อหน่วย

อัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าว จะคงที่ตลอดสัญญา และมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามในร่าง Tariff MOU โครงการน้ำงึม 3 โครงการปากแบง และโครงการปากลาย ที่ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม แต่ทั้งนี้ จะต้องไม่กระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้า

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบขยายกรอบปริมาณรับซื้อไฟฟ้า ภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย และลาว เรื่องความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในลาว จาก 9,000 เมกะวัตต์ เป็น 10,500 เมกะวัตต์

การรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการพลังน้ำจากลาวนั้น สอดคล้องตามกรอบ “แผนพลังงานชาติ” ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการมุ่งสู่เศรษฐกิจ และสังคมคาร์บอนต่ำ เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานสะอาดในรูปแบบต่าง ๆ และสอดคล้องทิศทางพลังงานโลก ที่มุ่งเน้นพลังงานสะอาด ลดการปล่อย CO2 อีกด้วย

shutterstock 1011811597

รับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน แบบ FiT

นอกจากนี้ กพช. ได้เห็นชอบหลักการในการรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี 2565 เห็นชอบอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ FiT ปี 2565 สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) กำลังผลิตติดตั้งไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ ภายใต้กรอบอัตราค่าไฟฟ้าสูงสุดที่ 5.08 บาทต่อหน่วย (FiT Premium 8 ปี 0.70 บาท/หน่วย) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) กำลังผลิตติดตั้งมากกว่า 10 – 50 เมกะวัตต์ ภายใต้กรอบอัตราค่าไฟฟ้าสูงสุดที่ 3.66 บาทต่อหน่วย และระยะเวลาการสนับสนุน 20 ปี

กพช. มอบหมายให้ กกพ. พิจารณากำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงต้นทุนการดำเนินการแต่ละโครงการต้นทุน การประกอบกิจการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ และผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศ เพื่อใช้เป็นอัตราในการประกาศรับซื้อไฟฟ้าต่อไป

ที่ประชุม กพช. ยังได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 5 ฉบับ (5 ผลิตภัณฑ์) ดังนี้

  1. ร่างกฎกระทรวงความร้อนแบบดึงความร้อนจากอากาศถ่ายเทให้แก่น้ำที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. …
  2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดฟิล์มติดกระจกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. …
  3. ร่างกฎกระทรวงกำหนดฉนวนอุตสาหกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ…..
  4. ร่างกฎกระทรวงกำหนดเตารังสีอินฟราเรดที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. …
  5. ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัดลมอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. …

ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงพลังงานนำร่างกฎกระทรวงฯ เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo