ยุคที่มีการแข่งขันรุนแรงของสายการบินทั้งสายการบินพรีเมียม และสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost) แต่การเดินทางคนส่วนใหญ่มักชอบเดินทางด้วยเครื่องบิน เพื่อประหยัดเวลา และความสะดวกสบาย ฉะนั้นการจองตั๋ว ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการเดินทาง
สายการบินทั่วโลกจึงเปิดให้มีการจองตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของแต่ละสายการบิน หรือผ่านเอเยนซีจองตั๋วเครื่องบิน แล้วแต่ความสะดวกของผู้โดยสาร ที่จะเลือกใช้บริการ
บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหนึ่งสายการบินที่จะต้องวางกลยุทธ์ เพื่อแข่งกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นการเปิดให้มีการจองตั๋วถือเป็นเรื่องสำคัญ จำเป็นต้องเปิดประมูล เพื่อหาบริษัทเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มเว็บไซต์สำหรับการบุ๊คกิ้ง เพื่อเปิดจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์
ระบบนี้สามารถให้ผู้จองตั๋วผ่านเวบ เมื่อจองแล้ว สามารถจองที่นั่งได้ เปลี่ยนที่นั่งได้ ขายอัพเซลได้ มีการแจ้งเตือนผู้โดยสารได้ ซึ่งมีหลายอย่าง
แหล่งข่าวกล่าวว่า โครงการนี้ต้องใช้เม็ดเงิน 1,500 ล้านบาท ในการว่าจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการ โดยเอกชนที่เสนอเข้ามาดำเนินการเรื่องนี้เป็นบริษัทสัญชาติแคนาดา ที่ผ่านมาเคยเปิดประมูลมาแล้ว 2 ครั้งแต่ก็ต้องล้มการประมูลไป
เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2560 ก็มีประมูลครั้งที่ 3 เกิดขึ้น
ครั้งนี้มีการเปิดซองประมูลที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
“จริงๆ การประมูลครั้งนี้มีหลายรายการ ที่เอาเข้ามารวมในทีโออาร์เดียวกัน ทำให้ไม่ต้องมาคอยจัดซื้ออยู่บ่อยๆ เลยทำให้ต้องใช้เม็ดเงินถึง 1,500 ล้านบาท”
เรื่องนี้ถือว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนระดับหนึ่ง คือ มีการนำเรื่องเสนอเข้าคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายของการบินไทย เพื่อตรวจสอบว่าการจัดซื้อถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะนำเสนอคณะกรรมการการบินไทย ให้เห็นว่าการจัดซื้อจัดจ้างไม่มีปัญหา
แหล่งข่าวจากการบินไทย กล่าวว่า เมื่อเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการบินไทย มีกรรมการท่านหนึ่งไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงได้สั่งในที่ประชุมให้ล้มการประมูล จัดหาบริษัททำเว็บบุ๊คกิ้งตั๋วทันที อาจจะเห็นความไม่ถูกต้องของการดำเนินการที่ผ่านมา
“ก่อนที่จะมีการเสนอบอร์ดการบินไทยพิจารณา มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของผู้ใหญ่บางคน ที่พยายามผลักดันให้ทำเรื่องนี้ ที่สำคัญทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ก็เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ทำให้กรรมการผู้ใหญ่จำเป็นต้องทุบโต๊ะสั่งยกเลิกไปเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา” แหล่งข่าว ระบุ
สำหรับบริษัทจากแคนาดาที่เสนอตัวเข้ามาประมูลงานนี้ ทราบว่า เป็นบริษัทที่ขายบุ๊คกิ้งตั๋วให้กับสายการบินของจีนหลายสาย แต่กำลังจะล้มละลาย ทางบริษัทในจีนรายหนึ่งก็ซื้อไป ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ แต่กลับมาเสนอราคาประมูลบุ๊คกิ้งตั๋วให้การบินไทยประมาณ 1,500 ล้านบาท
การยกเลิกดังกล่าวบริษัทเอกชนไม่สามารถฟ้องร้องได้ เพราะยังไม่ได้ทำหนังสือแจ้งยืนยันไปว่าได้รับคัดเลือก เป็นการรู้แค่ภายในว่าบริษัทจากแคนาดาได้ชนะการประมูล
“ความผิดปกติของเรื่องนี้ รวมถึง การที่มีคนที่พ้นจากการบินไทยไปแล้ว ยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประมูล ที่สำคัญพยายามดำเนินการเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้งแต่ก็ล้มไป และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการบินไทยกันมากว่า ดำเนินการไม่ถูกต้อง”