“วายแอลจี” เผยไตรมาส 4 เทรนด์ทองคำยังแกว่งตัวลง ปัจจัยกดดันหลักมาจากเฟดเตรียมลด QE แต่ภาพรวมยังเล่นเก็งกำไรตามรอบได้ เหตุยังมีปัจจัยบวกหนุนจากความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ เตือนยังต้องระวังแรงขายเมื่อราคาดีดตัว
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำช่วงนี้ระยะกลางยังเป็นลักษณะแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลงโดยปัจจัยกดดันให้ราคาทองปรับลดลงยังคงเป็นเรื่องเดิมเกี่ยวกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่มีการประกาศเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินในการปรับลด QE ที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วสุดในเดือนพฤศจิกายน และอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุดปลายปีหน้า จึงเป็นปัจจัยกดดันทองคำเป็นระยะทำให้ราคาทองคำปรับลดลงไปในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาเนื่องจากยังมีประเด็นที่เป็นปัจจัยบวกระยะสั้น ทั้งเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้องจับตา และประเด็นเพดานหนี้สหรัฐที่ถึงแม้จะมีการเพิ่มเพดานหนี้แล้ว แต่เป็นเพียงการขยายเพดานหนี้ในระยะสั้นเท่านั้น และสุดท้ายแล้วสภาคองเกรสจะต้องกลับมาพิจารณาเพิ่ม หรือระงับเพดานหนี้อีกครั้งในเดือนธันวาคมปีนี้ จึงทำให้ทองคำผันผวนและดีดตัวขึ้นมา
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนตลาดทองคำที่ต้องจับตา คือ ความขัดแย้งระหว่างจีนสหรัฐที่เริ่มเป็นประเด็นขึ้นมา ดังนั้นในระยะสั้นนักลงทุนที่ลงทุนในทองคำจึงมีโอกาสเล่นเก็งกำไรตามรอบจากปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามากระทบทองคำในระยะนี้
ยังยืนเหนือ 28,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดทองคำในประเทศนั้น ยังมีปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเข้ามาหนุนอีกหนึ่งปัจจัย จึงทำให้ราคาทองไทยยังยืนเหนือ 28,000 บาทต่อบาททองคำต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้น แนะนำให้รอจังหวะที่ทองคำดีดตัวแล้วขาย โดยมองแนวต้านที่ 1,771 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,350 บาทต่อบาททองคำ ถ้าผ่านไปได้จะไปที่แนวต้านถัดไป 1,787 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 28,600 บาทต่อบาททองคำ แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ จะมีโอกาสปรับลดลง โดยให้แนวรับที่ 1,747-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 27,950 บาทต่อบาททองคำ หากหลุดแนวรับนี้จะไปที่แนวรับถัดไปที่ 1,740-1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวโน้มทองคำระยะกลาง
โดยในช่วงนี้แนวโน้มทองคำระยะกลางยังเป็นทิศทาง Sideway Down จึงแนะนำให้ซื้อเล่นสั้นเท่านั้น สามารถทำรอบได้แม้จะเป็นเทรนด์แกว่งตัวลง โดยแนวรับสำคัญในระยะกลางอยู่ที่ 1,676-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 26,850 บาทต่อบาททองคำ หากยืนอย่าถือว่ายังมีโอกาสทดสอบกรอบบนได้ และแนวต้านสำคัญในระยะกลางจะอยู่ที่ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ทิศทางจึงจะสดใสมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าหลุดกรอบแนวรับสำคัญในระยะกลางอยู่ที่ 1,676-1,680 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทิศทางจะทองคำจะเป็นลบมากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘วายแอลจี’ แนะปรับพอร์ตทำกำไรระยะสั้น หลังดอลลาร์แข็งฉุดราคาทองคำร่วง
- จับตา!! ทิศทางทองคำครึ่งปีหลัง ‘วายแอลจี’ ชี้สัญญาณยังเป็นบวก
- ‘วายแอลจี’ ลุ้นราคาทองคำแตะ 1,900 ดอลลาร์ ระวังแรงขายทำกำไร
