GPSC เทงบกว่า 3,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จากกลุ่มบรู๊คฟีลด์ รีนิวเอเบิล พาร์ทเนอร์ส 9 โครงการ กำลังผลิตรวม 39.5 เมกะวัตต์ ดันกำลังการผลิตไฟเพิ่มเป็น 1,979.5 เมกะวัตต์ เพิ่มพอร์ตพลังงานทดแทนตามแผน กวาดผลตอบแทนทันทีหลังเข้าทำรายการแล้วเสร็จ
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด ( (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ในวันนี้ (7 ธ.ค.) จีพีเอสซี ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มบรู๊คฟีลด์ รีนิวเอเบิล พาร์ทเนอร์ส (Brookfield Renewable Partners) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนระดับโลก วงเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 100% ในบริษัท เอ็น.พี.เอส. สตาร์กรุ๊ป จำกัด (NPS) บริษัท เวิลด์ เอ็กซ์เชนจ์ เอเชีย จำกัด (WXA) และบริษัท พี.พี. โซลาร์ จำกัด (PPS) ซึ่งถือครองโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศไทย จำนวน 9 โครงการ รวมกำลังการผลิต 39.5 เมกะวัตต์ พร้อมเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 100% ในบริษัท เทอร์ร่าฟอร์ม โกลบอล โอเปอเรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งให้บริการบริหารจัดการ และดำเนินการบำรุงรักษา (Operation & Maintenance: O & M)โรงไฟฟ้าดังกล่าว
สำหรับ บริษัท NPS มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 18 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้า ขนาด 6 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โรง ตั้งอยู่บนพื้นที่จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดลพบุรี จำหน่ายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้วตั้งแต่ธันวาคมปี 2558 ยังเหลือระยะเวลาจำหน่ายอีก 22 ปี
บริษัท WXA กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 17.9 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าขนาด 5.96 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โรง ตั้งบนพื้นที่จังหวัดพิจิตร จำหน่ายไฟให้กับกฟภ.แล้วตั้งแต่ธันวาคม ปี 2558 เหลือระยะเวลาอีก 22 ปี และ บริษัท PPS กำลังการผลิต 3.6 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าขนาด 1.2 เมกะวัตต์ จำนวน 3 โรง ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น เริ่มจำหน่ายไฟให้กับกฟภ.ตั้งแต่มีนาคม ปี 2557 และมีนาคม ปี 2558
“โครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 9 โครงการ ปัจจุบัน สามารถผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบให้กับกฟภ.แล้ว การซื้อหุ้นครั้งนี้จึงทำให้บริษัท สามารถรับรู้รายได้ทันทีหลังการทำรายการซื้อขายหุ้นเสร็จ”นายชวลิต กล่าว
การลงทุนซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าทั้ง 9 แห่ง เป็นไปตามแผนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท ในการเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และต่อยอดความเชี่ยวชาญกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เป็น 1,979.5 เมกะวัตต์ อีกทั้งเป็นกิจการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว สามารถสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้ให้กับบริษัท อย่างต่อเนื่อง
